การประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 30, 2011 16:03 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอดังนี้

1. รับทราบการแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) เป็นรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT : Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle) แผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS : Greater Mekong Subregion) และกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (Mekong-Japan Economic Minister)

2. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4 เพื่อให้นายกรัฐมนตรีของไทยได้ลงนามร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4 ในวันที่ 20 ธันวาคม 2554 และขอความเห็นชอบให้ สศช. สามารถปรับปรุงถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมฯ ได้ในกรณีที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ หากมีการแก้ไขในระหว่างการประชุมคณะทำงานระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ 5 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2554 โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบอีก

3. เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนงาน GMS ระยะ 10 ปี (ปี 2555-2565)

4. เห็นชอบให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศเป็นองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4

สาระสำคัญของเรื่อง

สศช. รายงานว่า

1. การประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4 ของแผนงาน GMS ณ นครเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มีกำหนดการระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2554 โดยสาระสำคัญของการประชุม สรุปได้ ดังนี้

1.1 แนวคิดหลักของการประชุม คือ ปี 2555 การเข้าสู่ทศวรรษใหม่แห่งการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Beyond 2012 : Towards a New Decade of GMS Strategic Development Partnership)

1.2 การให้ความเห็นชอบและลงนามในแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยจะลงนามร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิก โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.2.1 ความก้าวหน้าการดำเนินงานในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพลังงาน ด้านโทรคมนาคม และด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงความก้าวหน้าในด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเกษตร และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของสาขาในระยะต่อไปแล้วเสร็จ

1.2.2 จุดมุ่งเน้นของกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนงาน GMS ฉบับใหม่ และกรอบการลงทุน จะเป็นแนวทางสำคัญของความร่วมมือท่ามกลางความท้าทายในทศวรรษหน้า โดยจะเพิ่มความสำคัญทางด้านซอฟท์แวร์ ควบคู่กับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน

1.2.3 แนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจ ยังคงเป็นศูนย์กลางการพัฒนาแบบบูรณาการ ซึ่งจะขับเคลื่อนการพัฒนาโดยเร่งดำเนินงานโครงการด้านการพัฒนาเมืองและเมืองชายแดน การเชื่อมโยงถนนสายรองเพื่อเข้าถึงและพัฒนาพื้นที่ การอำนวยความสะดวก การค้าและการขนส่งข้ามพรมแดน การส่งเสริมกิจกรรมโลจิสติกส์และการลงทุนตามแนวพื้นที่ และการพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ควบคู่กับการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพเพื่อตอบสนองต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ

1.2.4 สนับสนุนการเพิ่มบทบาทของ ADB ภาคเอกชน และประเทศหรือองค์กรผู้ให้ความช่วยเหลือการพัฒนาต่าง ๆ ในการสนับสนุนแผนงาน GMS

1.3 การให้ความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนงาน GMS ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาความร่วมมือภายใต้แผนงาน GMS ที่บูรณาการและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทในอนาคตที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

1.4 การลงนามเอกสารสำคัญ โดยรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายของประเทศสมาชิก รวม 3 เรื่อง ได้แก่

1.4.1 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเร่งรัดในการจัดให้มีโครงข่ายทางด่วนสารสนเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ระยะที่ 2 (MOU on the Joint Cooperation in Further Accelerating the Construction of the Information Superhighway and its Applications in the GMS) ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมอบหมายผู้ลงนาม

1.4.2 บันทึกความเข้าใจสำหรับการดำเนินงานร่วมกันเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ที่มีการเคลื่อนย้ายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (MOU for Joint Action to reduce HIV Vulnerability Related to Population Movement) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และมอบหมายผู้ลงนาม

1.4.3 การจัดตั้งสมาคมผู้ขนส่งในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Freight Transport Associatio : FRETA) ของภาคเอกชน ซึ่งได้จัดทำเอกสารแล้วเสร็จโดยประธานสภาธุรกิจ GMS-BF ของประเทศไทย (นายธนิต โสรัตน์) จะเป็นผู้ลงนามของฝ่ายไทยร่วมกับผู้แทนภาคเอกชนของประเทศสมาชิก

1.5 การร่วมฉลองความสำเร็จของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของ 3 สาขาความร่วมมือ ได้แก่ (1) แผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 2 (2) ผลการทบทวนกลางรอบของยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว และ (3) แผนสนับสนุนความร่วมมือด้านเกษตร ระยะที่ 2

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ