เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
(สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร สำหรับโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร สำหรับโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังเสนอว่า โครงการดังกล่าวมีความสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างยิ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น โดยการร่วมกันปลูกต้นไม้ปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ต้นน้ำ ลำธารและเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ รวมทั้งค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีส่วนช่วยสร้างงานในภูมิภาคได้เป็นอย่างมาก สมควรขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรสำหรับเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 317) พ.ศ. 2541 โดยภาครัฐจะสูญเสียรายได้ภาษีไม่มากนัก แต่คุ้มกับผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับโดยรวมในระยะยาว
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ที่บริจาคแก่กองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ต่อไปอีก 5 ปีระหว่าง พ.ศ. 2546 ถึง พ.ศ. 2550 และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ที่จะประสงค์ปลูกป่าเองเพื่อร่วมโครงการดังกล่าวสำหรับค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าได้ไร่ละไม่เกิน 3,000 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
(สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร สำหรับโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร สำหรับโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังเสนอว่า โครงการดังกล่าวมีความสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างยิ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น โดยการร่วมกันปลูกต้นไม้ปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ต้นน้ำ ลำธารและเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ รวมทั้งค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีส่วนช่วยสร้างงานในภูมิภาคได้เป็นอย่างมาก สมควรขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรสำหรับเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 317) พ.ศ. 2541 โดยภาครัฐจะสูญเสียรายได้ภาษีไม่มากนัก แต่คุ้มกับผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับโดยรวมในระยะยาว
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ที่บริจาคแก่กองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ต่อไปอีก 5 ปีระหว่าง พ.ศ. 2546 ถึง พ.ศ. 2550 และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ที่จะประสงค์ปลูกป่าเองเพื่อร่วมโครงการดังกล่าวสำหรับค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าได้ไร่ละไม่เกิน 3,000 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-