เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลาและกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทย
ว่าด้วยความร่วมมือด้านปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลาและกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลาและกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสืออำนาจเต็ม (Full Power) ให้ผู้ลงนามด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
พน. รายงานว่า
1. พน. ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยสาธารณรัฐแองโกลาเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย เนื่องจากมีศักยภาพด้านพลังงานสูง โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศได้มีการพบปะและหารือข้อราชการด้านพลังงานในเรื่องต่างๆ อยู่หลายครั้งโดยรวมถึงการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องซึ่งยกร่างเสนอในครั้งแรกโดยกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลา
2. พน. ของไทยและกระทรวงปิโตรเลียมของแองโกลาได้มีการหารือและพิจารณาปรับแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว และได้ประสานผ่านช่องทางทางการทูต ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 คณะทำงานด้านเทคนิคจากกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลา เดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมประชุมและหารือเกี่ยวกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ กับคณะทำงานด้านเทคนิคของ พน. ไทย ณ พน. ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในหลักการของสาระและถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวแล้วและได้ขอความอนุเคราะห์กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาให้ความเห็นต่อร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในประเด็นข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่ง กต. ได้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมและปรับแก้ไขให้ พน. ทราบแล้ว
3. พน. ไม่มีข้อขัดข้องกับข้อคิดเห็นของ กต. ที่ได้ปรับแก้ไขในร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงได้เสนอให้ฝ่ายแองโกลาพิจารณาอีกครั้ง และฝ่ายแองโกลาได้แจ้งให้ทราบว่ากระทรวงปิโตรเลียมของแองโกลาได้นำเสนอร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว เพื่อขอความเห็นชอบตามกระบวนการทางกฎหมายภายในประเทศเสร็จสิ้นแล้ว นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมแห่งสาธารณรัฐแองโกลา (นาย Jose Maria Botelho de Vasconcelos) และคณะประสงค์จะเดินทางเยือนไทยเพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 ด้วย
4. สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ สรุปได้ดังนี้
4.1 ขอบเขตของความร่วมมือด้านพลังงานลักษณะกว้าง ๆ ในหัวข้อต่อไปนี้
- การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายปิโตรเลียม อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และการดำเนินการของสถาบันที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- การร่วมกันจัดเตรียมการศึกษาร่วมและโครงการความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
- การฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญและการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารในด้านปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
- การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทน้ำมันแห่งชาติของคู่ภาคี
- การเข้าร่วมสัมมนา จัดการประชุมและการจัดนิทรรศการร่วมกัน
- การให้ความช่วยเหลือในการกำหนดและนำนโยบายการประชุม และการจัดนิทรรศการร่วมกัน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือในการกำหนดและประยุกต์นำนโยบาย กฎหมายและกฎระเบียบไปใช้ในกิจกรรมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมของแต่ละฝ่าย
4.2 ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่ประสานงานและดำเนินการตามกิจกรรม แผนงาน และโครงการความร่วมมือต่างๆ โดยที่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมนั้นแต่ละฝ่ายจะเป็นผู้รับผิดชอบ
4.3 บันทึกความเข้าใจฯ จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการลงนาม และจะขยายเวลาออกไปโดยอัตโนมัติในแต่ละครั้งอีก 3 ปี หากไม่มีการบอกเลิกบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว เป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ อนึ่ง ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะจัดทำเป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาโปรตุเกส (โดยถือข้อความในชุดภาษาอังกฤษเป็นหลัก)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 ธันวาคม 2554--จบ--