คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บันทึกบัญชีซื้อและขายน้ำมันดิบจากแหล่งในประเทศที่รัฐบาลมอบหมายให้ดำเนินการแทนโดยมิต้องจัดตั้งบัญชีพิเศษแยกต่างหากจากการดำเนินงานตามปกติของ ปตท. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ปตท. มีสถานะเป็นบริษัทเป็นต้นไป
กระทรวงพลังงานรายงานว่า
1. เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2531 กระทรวงการคลังได้ร่วมหารือกับ ปตท. ตกลงให้ ปตท. นำส่งรายได้อันเกิดจากการซื้อขายน้ำมันดิบจากผู้รับสัมปทานเข้าคลังเป็นรายได้ของรัฐ โดยให้ ปตท. หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วให้นำส่งคลังปีละครั้ง พร้อมการนำส่งรายได้จากผลการดำเนินงานประจำปี โดยแยกเป็นรายการต่างหาก ซึ่ง ปตท.ได้นำส่งรายได้ให้กระทรวงการคลังมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2530 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2544
2. คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2544 เห็นชอบให้ ปตท. แปลงสภาพเป็นบริษัท และได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 จึงเข้าสู่ระบบการเสียภาษีเงินได้ภายใต้ประมวลรัษฎากรเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ
3. ปตท. ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลังขออนุมัติบันทึกบัญชีซื้อและขายน้ำมันดิบในประเทศ ซึ่งปัจจุบันซื้อจากแหล่งสิริกิติ์เพียงแหล่งเดียว โดยขอปฏิบัติเช่นเดียวกับการบันทึกบัญชีซื้อและขายน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น ๆ มิต้องแยกเป็นรายการต่างหากจากการดำเนินงานปกติของ ปตท. ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ผลประโยชน์จากการซื้อขายน้ำมันดิบที่เดิมกระทรวงการคลังได้กำหนดให้ ปตท. นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งจำนวนนั้นหากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ ปตท. ไม่ต้องจัดตั้งบัญชีพิเศษแยกต่างหาก ผลประโยชน์จากการซื้อขายน้ำมันดิบจากแหล่งสิริกิติ์ก็จะถือเป็นรายได้ของ ปตท. โดยตรง และรัฐจะได้ประโยชน์ทางอ้อมในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหุ้นจากผลกำไร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
กระทรวงพลังงานรายงานว่า
1. เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2531 กระทรวงการคลังได้ร่วมหารือกับ ปตท. ตกลงให้ ปตท. นำส่งรายได้อันเกิดจากการซื้อขายน้ำมันดิบจากผู้รับสัมปทานเข้าคลังเป็นรายได้ของรัฐ โดยให้ ปตท. หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วให้นำส่งคลังปีละครั้ง พร้อมการนำส่งรายได้จากผลการดำเนินงานประจำปี โดยแยกเป็นรายการต่างหาก ซึ่ง ปตท.ได้นำส่งรายได้ให้กระทรวงการคลังมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2530 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2544
2. คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2544 เห็นชอบให้ ปตท. แปลงสภาพเป็นบริษัท และได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 จึงเข้าสู่ระบบการเสียภาษีเงินได้ภายใต้ประมวลรัษฎากรเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ
3. ปตท. ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลังขออนุมัติบันทึกบัญชีซื้อและขายน้ำมันดิบในประเทศ ซึ่งปัจจุบันซื้อจากแหล่งสิริกิติ์เพียงแหล่งเดียว โดยขอปฏิบัติเช่นเดียวกับการบันทึกบัญชีซื้อและขายน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น ๆ มิต้องแยกเป็นรายการต่างหากจากการดำเนินงานปกติของ ปตท. ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ผลประโยชน์จากการซื้อขายน้ำมันดิบที่เดิมกระทรวงการคลังได้กำหนดให้ ปตท. นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งจำนวนนั้นหากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ ปตท. ไม่ต้องจัดตั้งบัญชีพิเศษแยกต่างหาก ผลประโยชน์จากการซื้อขายน้ำมันดิบจากแหล่งสิริกิติ์ก็จะถือเป็นรายได้ของ ปตท. โดยตรง และรัฐจะได้ประโยชน์ทางอ้อมในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหุ้นจากผลกำไร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-