คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(สกถ.) เสนอ ดังนี้
1. หลักเกณฑ์การพิจารณาปรับลด ปรับเพิ่ม งบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2547 ซึ่งร่างหลักเกณฑ์ในการพิจารณาทบทวนงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย
1) การปรับปรุงยอดเงินงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศให้แต่ละจังหวัด ให้คำนึงถึงเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามแผนงาน/โครงการอื่นๆ ที่แต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรไปแล้ว
ตามแผนงานอื่นๆ อีก 13 แผนงาน/โครงการด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้งบประมาณกระจายไปยังจังหวัดและอำเภอต่างๆ ให้เกิดความเป็น
ธรรม
2) แนวทางการปรับลด ปรับเพิ่ม ยอดเงินตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในแต่ละจังหวัด ให้พิจารณา
จำนวนประชากรของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก ประกอบกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาพื้นที่ยุทธศาสตร์
3) แนวทางการปรับลดงบประมาณ ให้ปรับลดงบประมาณสำหรับโครงการเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ตามแผน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและมีวงเงินสูง โดยเมื่อได้ปรับลดยอดเงินโครงการแล้ว ยังคงสามารถดำเนินการตามโครงการเดิมได้
4) เมื่อดำเนินการตามข้อ 3) แล้ว หากยังมีจังหวัดใดได้รับงบประมาณสูงกว่าเกณฑ์ตามยอดประชากรที่สมควร
จะได้รับในข้อ 2) ให้พิจารณาปรับลดงบประมาณลงอีก
5) ให้นำงบประมาณที่ปรับลดในข้อ 3) และ 4) ไปเพิ่มให้กับจังหวัดที่ได้รับงบประมาณต่ำกว่าเกณฑ์กลาง
ที่กำหนดไว้ โดยปรับเพิ่มให้ตามสัดส่วนประชากรและงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้เดิมก่อนที่จะปรับเพิ่ม และพิจารณาเกลี่ย
งบประมาณที่ปรับเพิ่มไปตามเขตพื้นที่อำเภอต่างๆ ตามความเหมาะสม
2. วงเงินงบประมาณที่จังหวัดต่างๆ ได้รับ ซึ่งได้ดำเนินการปรับลด ปรับเพิ่มวงเงินตามหลักเกณฑ์ในข้อ 1 แล้ว
สรุปได้ดังนี้
1) มีจังหวัดได้รับงบประมาณที่ปรับปรุง เปรียบเทียบกับงบประมาณเดิมที่จัดสรร ดังนี้
จำนวนงบประมาณที่ได้รับ จำนวนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรตาม จำนวนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรตาม
การจัดสรร (ล้านบาท) ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (3,226 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (3,226
ล้านบาท) เดิม ล้านบาท) ที่ปรับปรุง
0 3 1
1-5 5 3
5-10 3 7
10-20 14 11
20-50 29 28
50-100 15 23
มากกว่า 100 6 2
รวม 75 75
2) มีการปรับลดงบประมาณ จำนวน 279 รายการ งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
3) หลังจากปรับลดในข้อ 2) แล้ว มีรายการงบประมาณคงเหลือ 762 รายการ งบประมาณ 2,516.343
ล้านบาท
4) มีจังหวัดที่ถูกปรับลดงบประมาณ 42 จังหวัด งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
5) มีจังหวัดที่ได้รับงบประมาณเพิ่ม 31 จังหวัด งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
3. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในรายการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้ปรับปรุงแล้ว จำนวน 762 รายการ วงเงินงบประมาณ 2,516.343 ล้านบาท
4. มอบให้ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงาน
คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
พิจารณาโครงการและวงเงินที่จัดสรรเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ 31 จังหวัด ประมาณ 710.200 ล้านบาท
และให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในโครงการที่ได้มีการพิจารณาแล้ว
สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาทบทวนการ
จัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายวราเทพ รัตนากร) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประชา มาลีนนท์) ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมส่งเสริม
การปกครองท้องถิ่น และผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกัน ได้ข้อยุติหลักเกณฑ์และแนวทางในการพิจารณาและ
มอบให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) สรุปหลักเกณฑ์นำเรียนรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
(สกถ.) เสนอ ดังนี้
1. หลักเกณฑ์การพิจารณาปรับลด ปรับเพิ่ม งบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2547 ซึ่งร่างหลักเกณฑ์ในการพิจารณาทบทวนงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย
1) การปรับปรุงยอดเงินงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศให้แต่ละจังหวัด ให้คำนึงถึงเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามแผนงาน/โครงการอื่นๆ ที่แต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรไปแล้ว
ตามแผนงานอื่นๆ อีก 13 แผนงาน/โครงการด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้งบประมาณกระจายไปยังจังหวัดและอำเภอต่างๆ ให้เกิดความเป็น
ธรรม
2) แนวทางการปรับลด ปรับเพิ่ม ยอดเงินตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในแต่ละจังหวัด ให้พิจารณา
จำนวนประชากรของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก ประกอบกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาพื้นที่ยุทธศาสตร์
3) แนวทางการปรับลดงบประมาณ ให้ปรับลดงบประมาณสำหรับโครงการเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ตามแผน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและมีวงเงินสูง โดยเมื่อได้ปรับลดยอดเงินโครงการแล้ว ยังคงสามารถดำเนินการตามโครงการเดิมได้
4) เมื่อดำเนินการตามข้อ 3) แล้ว หากยังมีจังหวัดใดได้รับงบประมาณสูงกว่าเกณฑ์ตามยอดประชากรที่สมควร
จะได้รับในข้อ 2) ให้พิจารณาปรับลดงบประมาณลงอีก
5) ให้นำงบประมาณที่ปรับลดในข้อ 3) และ 4) ไปเพิ่มให้กับจังหวัดที่ได้รับงบประมาณต่ำกว่าเกณฑ์กลาง
ที่กำหนดไว้ โดยปรับเพิ่มให้ตามสัดส่วนประชากรและงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้เดิมก่อนที่จะปรับเพิ่ม และพิจารณาเกลี่ย
งบประมาณที่ปรับเพิ่มไปตามเขตพื้นที่อำเภอต่างๆ ตามความเหมาะสม
2. วงเงินงบประมาณที่จังหวัดต่างๆ ได้รับ ซึ่งได้ดำเนินการปรับลด ปรับเพิ่มวงเงินตามหลักเกณฑ์ในข้อ 1 แล้ว
สรุปได้ดังนี้
1) มีจังหวัดได้รับงบประมาณที่ปรับปรุง เปรียบเทียบกับงบประมาณเดิมที่จัดสรร ดังนี้
จำนวนงบประมาณที่ได้รับ จำนวนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรตาม จำนวนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรตาม
การจัดสรร (ล้านบาท) ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (3,226 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (3,226
ล้านบาท) เดิม ล้านบาท) ที่ปรับปรุง
0 3 1
1-5 5 3
5-10 3 7
10-20 14 11
20-50 29 28
50-100 15 23
มากกว่า 100 6 2
รวม 75 75
2) มีการปรับลดงบประมาณ จำนวน 279 รายการ งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
3) หลังจากปรับลดในข้อ 2) แล้ว มีรายการงบประมาณคงเหลือ 762 รายการ งบประมาณ 2,516.343
ล้านบาท
4) มีจังหวัดที่ถูกปรับลดงบประมาณ 42 จังหวัด งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
5) มีจังหวัดที่ได้รับงบประมาณเพิ่ม 31 จังหวัด งบประมาณ 710.200 ล้านบาท
3. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในรายการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้ปรับปรุงแล้ว จำนวน 762 รายการ วงเงินงบประมาณ 2,516.343 ล้านบาท
4. มอบให้ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงาน
คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
พิจารณาโครงการและวงเงินที่จัดสรรเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ 31 จังหวัด ประมาณ 710.200 ล้านบาท
และให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในโครงการที่ได้มีการพิจารณาแล้ว
สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาทบทวนการ
จัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายวราเทพ รัตนากร) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประชา มาลีนนท์) ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมส่งเสริม
การปกครองท้องถิ่น และผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกัน ได้ข้อยุติหลักเกณฑ์และแนวทางในการพิจารณาและ
มอบให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) สรุปหลักเกณฑ์นำเรียนรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-