คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลความก้าวหน้าการรับจดทะเบียนแก้ปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ เป็นครั้งที่ 12 ประจำวันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547 ดังนี้
1. ผลการจดทะเบียน นับถึงวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนรวมทั้งประเทศทั้งสิ้น7,258,600 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.56 ของประชากรทั้งประเทศ จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 10,176,127 ปัญหา แยกเป็น2 พื้นที่ดำเนินการ ดังนี้
1.1 ผลการจดทะเบียนในพื้นที่ 75 จังหวัด รวม 66 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 7,005,594 คน จำนวนปัญหา 9,890,010 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
1.2 ผลการจดทะเบียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 41 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 253,006 คนจำนวนปัญหา 286,117 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
2. ผลการบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ นับถึงวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนที่ได้รับการบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์แล้วจำนวน 6,170,872 ราย จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 8,815,531 ปัญหาโดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ทั่วประเทศทำการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ที่29 กุมภาพันธ์ 2547
3. การวิเคราะห์ข้อมูล จากฐานข้อมูลที่มีการบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ณ วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์2547 โดยวิเคราะห์เฉพาะปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ลำดับแรก ดังต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลผู้ประสบปัญหาที่ดินทำกิน
1) ปัญหาที่ดินทำกินที่บันทึกข้อมูลแล้ว 2,864,204 คน แยกเป็น ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน 1,035,409ราย มีที่ดินเดิมแต่ขอเพิ่ม 1,231,321 ราย เช่าที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 192,188 ราย ถือครองที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 346,567 ราย ไม่สามารถระบุได้ 58,719 ราย
2) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1 คน ขอรับความช่วยเหลือได้มากกว่า 1 รายการ)ต้องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในการทำสวน ในเนื้อที่ 8,678,234 ไร่ ต้องการใช้ทำนา ในเนื้อที่ 8,959 ไร่ ต้องการใช้ทำไร่ ในเนื้อที่ 4,187,491 ไร่ เลี้ยงสัตว์ ในเนื้อที่ 4,142,065 ไร่ ทำการประมง ในเนื้อที่ 634,191 ไร่
3.2 ข้อมูลด้านปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
1) ปัญหาหนี้สินฯ มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,566,912 คน
2) วงเงินหนี้สิน 438,046,876,468 บาท จำแนกเป็น หนี้สินในระบบ จำนวน 348,702,333,508 หรือร้อยละ 81.73 หนี้นอกระบบ จำนวน 89,344,542,960 บาท หรือร้อยละ 18.27
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1 คน ขอรับความช่วยเหลือได้มากกว่า 1 รายการ)ขยายเวลาการชำระหนี้ จำนวน 1,337,518 คน หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 1,288,550 คน จัดหาอาชีพเสริมจำนวน 1,224,786 คน กำหนดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย จำนวน 997,903 คน ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว จำนวน714,515 คน
3.3 ข้อมูลด้านปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน
1) ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,371,781 คน
2) ลักษณะการพักอาศัยปัจจุบัน พักอาศัยกับญาติ จำนวน 700,020 คน เช่าที่อยู่อาศัยของเอกชน จำนวน 318,939 คน อาศัยบุคคลอื่น จำนวน 130,594 คน เช่าที่ดินของรัฐ จำนวน 49,521 คน อื่น ๆ (บุกรุกที่รัฐ) จำนวน 172,707 คน
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ ต้องการซื้อบ้านราคาถูก จำนวน 130,594 คน ต้องการที่ดินราคาถูกเพื่อปลูกบ้าน จำนวน 519,768 คน ต้องการได้รับสิทธิเช่า/อาศัยที่ดินปัจจุบัน (ที่บุกรุกอยู่) จำนวน161,458 คน เช่าบ้านใหม่ราคาถูก จำนวน 13,032 คน
4. การประมวลผลภาพรวมของการจดทะเบียนรายหลังคาเรือน (บ้านเลขที่เดียวกัน)
ในฐานะข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 5,504,418 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 6,170,872 ราย เพราะเกิดจากการที่มีผู้จดทะเบียนซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันไปขอจดทะเบียนในปัญหาที่อาจแตกต่างกัน หรือปัญหาเดียวกัน
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ปัญหาในแต่ละประเภทปัญหา พบว่า
4.1 ปัญหาที่ดินทำกิน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,739,541 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,864,204 ราย แสดงว่ามีผู้ไปจดทะเบียนซ้ำซ้อน 124,663 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน2,739,541 หลังคาเรือน
4.2 ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,449,486 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,566,912 ราย ไม่สามารถหักความซ้ำซ้อนได้ เนื่องจากในบ้านหลังหนึ่งอาจมีผู้จดทะเบียนมากกว่า1 ราย และแต่ละรายมีมูลหนี้ต่างกัน
4.3 ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,261,424 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,371,781 ราย แสดงว่ามีผู้จดทะเบียนซ้ำซ้อนจำนวน 110,357 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 1,261,424 หลังคาเรือน
5. การสั่งการเพิ่มเติม กระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดและกรุงเทพมหานครแจ้งกำชับอำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ดำเนินการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จทันทีที่ครบกำหนดการจดทะเบียน โดยผ่อนปรนให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนในเวลาที่กำหนดเดิมได้มีโอกาสไปจดทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ดังนี้
5.1 ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่อง ให้ผ่อนปรนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547
5.2 ในพื้นที่ 67 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ให้ผ่อนปรนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2547
6. ปัญหา - อุปสรรค กระทรวงมหาดไทยไม่ได้รับรายงานปัญหา - อุปสรรคในการดำเนินงานแต่อย่างใด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
1. ผลการจดทะเบียน นับถึงวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนรวมทั้งประเทศทั้งสิ้น7,258,600 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.56 ของประชากรทั้งประเทศ จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 10,176,127 ปัญหา แยกเป็น2 พื้นที่ดำเนินการ ดังนี้
1.1 ผลการจดทะเบียนในพื้นที่ 75 จังหวัด รวม 66 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 7,005,594 คน จำนวนปัญหา 9,890,010 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
1.2 ผลการจดทะเบียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 41 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 253,006 คนจำนวนปัญหา 286,117 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
2. ผลการบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ นับถึงวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนที่ได้รับการบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์แล้วจำนวน 6,170,872 ราย จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 8,815,531 ปัญหาโดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ทั่วประเทศทำการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ที่29 กุมภาพันธ์ 2547
3. การวิเคราะห์ข้อมูล จากฐานข้อมูลที่มีการบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ณ วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์2547 โดยวิเคราะห์เฉพาะปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ลำดับแรก ดังต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลผู้ประสบปัญหาที่ดินทำกิน
1) ปัญหาที่ดินทำกินที่บันทึกข้อมูลแล้ว 2,864,204 คน แยกเป็น ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน 1,035,409ราย มีที่ดินเดิมแต่ขอเพิ่ม 1,231,321 ราย เช่าที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 192,188 ราย ถือครองที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 346,567 ราย ไม่สามารถระบุได้ 58,719 ราย
2) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1 คน ขอรับความช่วยเหลือได้มากกว่า 1 รายการ)ต้องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในการทำสวน ในเนื้อที่ 8,678,234 ไร่ ต้องการใช้ทำนา ในเนื้อที่ 8,959 ไร่ ต้องการใช้ทำไร่ ในเนื้อที่ 4,187,491 ไร่ เลี้ยงสัตว์ ในเนื้อที่ 4,142,065 ไร่ ทำการประมง ในเนื้อที่ 634,191 ไร่
3.2 ข้อมูลด้านปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
1) ปัญหาหนี้สินฯ มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,566,912 คน
2) วงเงินหนี้สิน 438,046,876,468 บาท จำแนกเป็น หนี้สินในระบบ จำนวน 348,702,333,508 หรือร้อยละ 81.73 หนี้นอกระบบ จำนวน 89,344,542,960 บาท หรือร้อยละ 18.27
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1 คน ขอรับความช่วยเหลือได้มากกว่า 1 รายการ)ขยายเวลาการชำระหนี้ จำนวน 1,337,518 คน หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 1,288,550 คน จัดหาอาชีพเสริมจำนวน 1,224,786 คน กำหนดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย จำนวน 997,903 คน ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว จำนวน714,515 คน
3.3 ข้อมูลด้านปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน
1) ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,371,781 คน
2) ลักษณะการพักอาศัยปัจจุบัน พักอาศัยกับญาติ จำนวน 700,020 คน เช่าที่อยู่อาศัยของเอกชน จำนวน 318,939 คน อาศัยบุคคลอื่น จำนวน 130,594 คน เช่าที่ดินของรัฐ จำนวน 49,521 คน อื่น ๆ (บุกรุกที่รัฐ) จำนวน 172,707 คน
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ ต้องการซื้อบ้านราคาถูก จำนวน 130,594 คน ต้องการที่ดินราคาถูกเพื่อปลูกบ้าน จำนวน 519,768 คน ต้องการได้รับสิทธิเช่า/อาศัยที่ดินปัจจุบัน (ที่บุกรุกอยู่) จำนวน161,458 คน เช่าบ้านใหม่ราคาถูก จำนวน 13,032 คน
4. การประมวลผลภาพรวมของการจดทะเบียนรายหลังคาเรือน (บ้านเลขที่เดียวกัน)
ในฐานะข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 5,504,418 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 6,170,872 ราย เพราะเกิดจากการที่มีผู้จดทะเบียนซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันไปขอจดทะเบียนในปัญหาที่อาจแตกต่างกัน หรือปัญหาเดียวกัน
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ปัญหาในแต่ละประเภทปัญหา พบว่า
4.1 ปัญหาที่ดินทำกิน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,739,541 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,864,204 ราย แสดงว่ามีผู้ไปจดทะเบียนซ้ำซ้อน 124,663 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน2,739,541 หลังคาเรือน
4.2 ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,449,486 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,566,912 ราย ไม่สามารถหักความซ้ำซ้อนได้ เนื่องจากในบ้านหลังหนึ่งอาจมีผู้จดทะเบียนมากกว่า1 ราย และแต่ละรายมีมูลหนี้ต่างกัน
4.3 ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,261,424 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,371,781 ราย แสดงว่ามีผู้จดทะเบียนซ้ำซ้อนจำนวน 110,357 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 1,261,424 หลังคาเรือน
5. การสั่งการเพิ่มเติม กระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดและกรุงเทพมหานครแจ้งกำชับอำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ดำเนินการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จทันทีที่ครบกำหนดการจดทะเบียน โดยผ่อนปรนให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนในเวลาที่กำหนดเดิมได้มีโอกาสไปจดทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ดังนี้
5.1 ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่อง ให้ผ่อนปรนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547
5.2 ในพื้นที่ 67 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ให้ผ่อนปรนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2547
6. ปัญหา - อุปสรรค กระทรวงมหาดไทยไม่ได้รับรายงานปัญหา - อุปสรรคในการดำเนินงานแต่อย่างใด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-