คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้แพทยสภา ดังนี้
1. สนับสนุนงบประมาณแก่แพทยสภาในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนด้านจริยธรรมในปีงบประมาณ 2547 และปีงบประมาณ 2548 ปีละ 5 ล้านบาท (รวม 2 ปี)
2. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 เห็นควรให้การสนับสนุนงบประมาณปีละ 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2547 แพทยสภาได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว 1 ล้านบาท จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณอีก 4 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า แพทยสภาซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มีรายได้ส่วนใหญ่จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสมาชิก และมีภารกิจที่จะต้องนำรายได้ไปใช้ในกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิก เช่น ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย การพัฒนามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมการสร้างเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติสมาชิก แต่ในทางปฏิบัติแพทยสภากลับต้องนำรายได้ดังกล่าวมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนด้านจริยธรรม ซึ่งความเป็นจริงแล้วการคุ้มครองประชาชนด้านการแพทย์เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่เนื่องจากภาครัฐมีภารกิจมาก ไม่สามารถควบคุมดูแลได้อย่างทั่วถึง จึงกระจายอำนาจโดยมอบอำนาจรัฐให้องค์กรวิชาชีพเข้ามาช่วยดูแลและรัฐสนับสนุนด้านงบประมาณดำเนินการ
ในขณะนี้การดำเนินงานในฝ่ายจริยธรรม มีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 3,000,000 - 4,000,000 บาทงบอุดหนุนประจำปีจากภาครัฐปีละ 1,000,000 บาท จึงไม่เพียงพอในการแก้ไขเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน และยังคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยอยู่ในการพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรม จำนวน 220 เรื่อง และอนุกรรมการสอบสวน จำนวน214 เรื่อง หากต้องการให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1 - 2 ปี จะต้องเพิ่มอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนในเบื้องต้นเป็นอนุกรรมการละ 9 ชุด เพิ่มนิติกรเพื่อช่วยปฏิบัติงานอีก 6 คน ซึ่งต้องใช้งบประมาณปีละ 9,000,000 -10,000,000 บาท ซึ่งแพทยสภาไม่สามารถสรรหางบประมาณดังกล่าวได้ด้วยตนเอง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. สนับสนุนงบประมาณแก่แพทยสภาในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนด้านจริยธรรมในปีงบประมาณ 2547 และปีงบประมาณ 2548 ปีละ 5 ล้านบาท (รวม 2 ปี)
2. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 เห็นควรให้การสนับสนุนงบประมาณปีละ 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2547 แพทยสภาได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว 1 ล้านบาท จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณอีก 4 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า แพทยสภาซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มีรายได้ส่วนใหญ่จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสมาชิก และมีภารกิจที่จะต้องนำรายได้ไปใช้ในกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิก เช่น ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย การพัฒนามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมการสร้างเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติสมาชิก แต่ในทางปฏิบัติแพทยสภากลับต้องนำรายได้ดังกล่าวมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนด้านจริยธรรม ซึ่งความเป็นจริงแล้วการคุ้มครองประชาชนด้านการแพทย์เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่เนื่องจากภาครัฐมีภารกิจมาก ไม่สามารถควบคุมดูแลได้อย่างทั่วถึง จึงกระจายอำนาจโดยมอบอำนาจรัฐให้องค์กรวิชาชีพเข้ามาช่วยดูแลและรัฐสนับสนุนด้านงบประมาณดำเนินการ
ในขณะนี้การดำเนินงานในฝ่ายจริยธรรม มีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 3,000,000 - 4,000,000 บาทงบอุดหนุนประจำปีจากภาครัฐปีละ 1,000,000 บาท จึงไม่เพียงพอในการแก้ไขเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน และยังคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยอยู่ในการพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรม จำนวน 220 เรื่อง และอนุกรรมการสอบสวน จำนวน214 เรื่อง หากต้องการให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1 - 2 ปี จะต้องเพิ่มอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนในเบื้องต้นเป็นอนุกรรมการละ 9 ชุด เพิ่มนิติกรเพื่อช่วยปฏิบัติงานอีก 6 คน ซึ่งต้องใช้งบประมาณปีละ 9,000,000 -10,000,000 บาท ซึ่งแพทยสภาไม่สามารถสรรหางบประมาณดังกล่าวได้ด้วยตนเอง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-