การพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์และการบริการสาธารณะควบคู่กันไปตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เสนอดังนี้

1. รับทราบผลการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง (กค.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) และ กทพ.

2. รับทราบการดำเนินการโครงการเชิงพาณิชย์จำหน่ายสินค้า OTOP ของ คค. (กทพ.) ควบคู่ไปกับโครงการเสริมสร้างสุขภาพและแหล่งการเรียนรู้สำหรับเด็กเพื่อประโยชน์สาธารณะ ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดย กทพ. จะได้ดำเนินการในพื้นที่เขตทางพิเศษส่วนอื่น ๆ ตามขั้นตอนและกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

คค. รายงานว่า

1. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 (ข้อ 2) กทพ. ได้จัดให้มีการประชุมหารือร่วมระหว่าง กค. สศช. และ สคก. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 และมีมติร่วมกันว่า กทพ. สามารถนำพื้นที่เขตทางพิเศษที่ได้เวนคืนและก่อสร้างทางพิเศษเสร็จเรียบร้อยแล้วมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ควบคู่กับการให้บริการสาธารณะได้ เนื่องจาก กทพ. ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนที่ดินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการทางพิเศษ แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550

2. การใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้เขตทางพิเศษภายใต้ “โครงการเสริมสร้างสุขภาพและแหล่งการเรียนรู้สำหรับเด็กเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ของ สธ. ควบคู่กับการจัดทำ “โครงการเชิงพาณิชย์จำหน่ายสินค้า OTOP” ของ กทพ.

กทพ. ได้มีการประชุมร่วมกับ สธ. เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2554 เพื่อพิจารณานำพื้นที่ในเขตทางพิเศษมาดำเนิน “โครงการเสริมสร้างสุขภาพและแหล่งการเรียนรู้สำหรับเด็กเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ซึ่ง กทพ. พิจารณาแล้วเห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะและเพื่อให้การใช้พื้นที่ในเขตทางพิเศษมีศักยภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ ตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ ที่ประชุมจึงเห็นชอบการดำเนินการโครงการดังกล่าว โดยกำหนดให้ใช้พื้นที่ใต้ทางพิเศษ บริเวณถนนสุขุมวิท พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ รูปแบบ และระยะเวลาการดำเนินการ ดังนี้

2.1 วัตถุประสงค์

2.1.1 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสนับสนุนผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP จากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง

2.1.2 เพื่อให้เด็กในประเทศไทยอายุตั้งแต่ 1 — 21 ปี มีสุขภาพที่ดี ปราศจากอบายมุขต่าง ๆ ดำรงอยู่ในสังคมด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสม

2.1.3 เพื่อให้สตรี พ่อ แม่ ผู้ปกครองของเด็กในประเทศไทยมีความตระหนักและร่วมกันสร้างสุขภาพที่ดี

2.1.4 เพื่อให้เกิดพื้นที่แหล่งเรียนรู้การดูแลสุขภาพอนามัยสาธารณะที่เหมาะสม สอดคล้องสำหรับเด็กทุกวัยด้วยการบูรณาการของทุกภาคส่วน

2.2 รูปแบบการดำเนินงาน

2.2.1 จัดให้มีการก่อสร้างอาคารห้องสมุด ศูนย์เรียนรู้ มุมให้คำปรึกษา การจัดกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น กิจกรรมการละเล่นภายในและภายนอกอาคาร ฝึกอาชีพ การแสดงดนตรี ฯลฯ

2.2.2 จัดให้มีร้านค้าจำหน่ายสินค้า OTOP สับเปลี่ยนกันไปตามช่วงเวลา

2.2.3 ระยะเวลาดำเนินการ

ระยะเวลาดำเนินการในแต่ละช่วงไม่เกิน 5 ปี โดยจะพิจารณาความเหมาะสมต่อเนื่องไปเป็นระยะ และจะเริ่มเปิดโครงการฯ ในวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 8 (1) และ (2) และมาตรา 10 (12) และ (14) ซึ่งคณะกรรมการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 มกราคม 2555--จบ--