คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) เสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ (ใหม่) และปฏิทินขั้นตอนการปฏิบัติงานสำหรับการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ(ใหม่) สำหรับกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์ของกระทรวง และหน่วยงานที่ได้ดำเนินการลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการแล้ว โดยให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการพิจารณาอนุมัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานในสังกัดได้เอง ตามแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ ทก. กำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
3. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ (ใหม่) ที่เสนอ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นด้วย
4. เห็นชอบให้สำนักงบประมาณกำหนดวงเงินงบประมาณเพื่อใช้ในการจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายแก่ ทก.ให้ไปดำเนินการพิจารณาโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ควรให้มีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การพิจารณาตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมา เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย ทก. จึงได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐขึ้นใหม่ และจากการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 เห็นชอบยุทธศาสตร์ของกระทรวงนำร่อง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงยุติธรรม โดยมีการลงนามในคำรับรองปฏิบัติราชการ ซึ่งจะต้องมีความคล่องตัวในการที่จะบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์และพันธกิจที่ได้กำหนดไว้ ทก. จึงพิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินการของกระทรวงที่ได้ลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการแล้ว จึงเห็นควรยกเว้นให้แต่ละกระทรวงที่ได้ลงนามในคำรับรองฯ ไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้กำหนดใหม่ดังกล่าว โดยเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ งาน/แผนงาน/โครงการของหน่วยงานในสังกัดได้เอง ตามแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ ทก. กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ (ใหม่) และปฏิทินขั้นตอนการปฏิบัติงานสำหรับการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ(ใหม่) สำหรับกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์ของกระทรวง และหน่วยงานที่ได้ดำเนินการลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการแล้ว โดยให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการพิจารณาอนุมัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานในสังกัดได้เอง ตามแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ ทก. กำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
3. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ (ใหม่) ที่เสนอ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นด้วย
4. เห็นชอบให้สำนักงบประมาณกำหนดวงเงินงบประมาณเพื่อใช้ในการจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายแก่ ทก.ให้ไปดำเนินการพิจารณาโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ควรให้มีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การพิจารณาตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมา เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย ทก. จึงได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐขึ้นใหม่ และจากการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 เห็นชอบยุทธศาสตร์ของกระทรวงนำร่อง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงยุติธรรม โดยมีการลงนามในคำรับรองปฏิบัติราชการ ซึ่งจะต้องมีความคล่องตัวในการที่จะบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์และพันธกิจที่ได้กำหนดไว้ ทก. จึงพิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินการของกระทรวงที่ได้ลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการแล้ว จึงเห็นควรยกเว้นให้แต่ละกระทรวงที่ได้ลงนามในคำรับรองฯ ไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้กำหนดใหม่ดังกล่าว โดยเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ งาน/แผนงาน/โครงการของหน่วยงานในสังกัดได้เอง ตามแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ที่ ทก. กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-