แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 14, 2012 13:51 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้ง นายพูลศักดิ์ เศรษฐนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงแรงงาน

2. การแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐชุดใหม่

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ชุดใหม่ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังนี้

1. องค์ประกอบ

นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธาน กรรมการประกอบด้วย ประธานกรรมการ ป.ป.ท. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ นายพิษณุโรจน์ พลับรู้การ นางชูจิรา กองแก้ว นายภิญโญ ทองชัย นายอุทิศ ขาวเธียร นายปริญญา บุญชู นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ นายวรวุฒิ โรจนพานิช พันตำรวจเอก บรรจบ สุดใจ โดยมี เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช. จำนวน 2 ราย ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายและผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ท. จำนวน 2 ราย ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

2. อำนาจหน้าที่

1. กำกับดูแลให้องค์กรในภาครัฐจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ

2 .ดำเนินการจัดสรรทรัพยากรสนับสนุน แผนงาน โครงการตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ

3. อำนวยการและประสานการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ

4. ติดตามประเมินผลและแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ

5. แต่งตั้งอนุกรรมการ ฯ หรือคณะทำงาน ฯ เพื่อดำเนินการหรือสนับสนุนภารกิจ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ มอบหมาย

6. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย

3. เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐกาบองเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ว่า รัฐบาลสาธารณรัฐกาบองมีความประสงค์จะขอแต่งตั้ง นายกาโลส วิกเตอร์ บงกู (Mr. Carlos Victor Boungou) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกาบองประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโซล สืบแทน นายชอง ปีแยร์ โซเล เอมาเน (Mr. Jean Pierre Sole — Emane) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

4. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอแต่งตั้ง นายชเยนทร์ คำนวณ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย

5. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่น ในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้

1. แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีก 1 คน รวม 3 คน ในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า เพื่อทดแทนตำแหน่งของกรรมการเดิมที่ลาออกไป ซึ่งเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 มาตรา 15 ดังนี้ 1. พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป ประธานกรรมการ 2. รองศาสตราจารย์ พันเอก นพ. เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ รองประธานกรรมการ 3. นายสุวรรณชาติ สูตรสุวรรณ กรรมการ

2. ให้รองศาสตราจารย์ พันเอก นพ. เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า พ้นจากตำแหน่งกรรมการ เพื่อดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า

6. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงมหาดไทย)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้

1. นายสุรชัย ศรีสารคาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก

2. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก

3. นางสาวจิตรา พรหมชุติมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

7. เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติม

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 41/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เพิ่มเติม) ดังนี้

ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 197/2554 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดำเนินการเสริมสร้างสันติสุข ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้โดยเฉพาะการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบอย่างเป็นธรรม นั้น

เพื่อให้การดำเนินงานของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ตามภารกิจ อำนาจหน้าที่ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 197/2554 ดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจาก ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มเติม ดังนี้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษา นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รองประธานกรรมการ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองประธานกรรมการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ดร.พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล นายประมุข ลมุล นายฐานิส ศรียะพันธ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย และนายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ทังนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป

8. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 40/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 40/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดังนี้

ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 14/2555 ลงวันที่ 13 มกราคม 2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ นั้น

เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้มีการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน สำหรับการลงทุน การพัฒนาอาชีพ การสร้างงาน สร้างรายได้ การพัฒนาศักยภาพและเครือข่ายสตรี การเพิ่มบทบาทและสร้างภาวะผู้นำ การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิภาพและสวัสดิการให้แก่สตรี เป็นไปโดยรวดเร็ว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงเห็นควรยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 14/2555 ลงวันที่ 13 มกราคม 2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ และแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ขึ้นใหม่ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้

1. องค์ประกอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางนลินี ทวีสิน) ประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายฐานิสร์ เทียนทอง) รองประธานกรรมการ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ) อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายพัลลภ ศักดิ์โสภณกุล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบ สำนักงบประมาณ นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ นายอดุลย์ วรรณสรณ์ นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ นายสุนัย เศรษฐ์บุญสร้าง นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นางสาวเพ็ญชิสา หงษ์อุปถัมภ์ชัย นางสาววิลาวัลย์ ธรรมชาติ นางสาวนิชนันท์ วังคะฮาตธัญญกิจ นางสาวณัฐทรัชต์ ชามพูนท โดยมี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นกรรมการและเลขานุการ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางนันทิกาญจน์ สวัสดิ์ภักดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการประสานราชการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางเอมปรีดิ์ วัชรางกูร ผู้อำนวยการกลุ่มแผนงานและงบประมาณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

2. อำนาจหน้าที่

2.1 ศึกษารูปแบบ กรอบการดำเนินการ และเสนอแนะแนวทางในการจัดตั้งและบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีต่อนายกรัฐมนตรี

2.2 ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานเพื่อจัดตั้งและบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ให้เป็นไปตามนโยบายการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

2.3 ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ เพื่อให้การดำเนินงานจัดตั้งและบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีบรรลุเป้าหมาย

2.4 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อดำเนินการหรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสมและจำเป็น

2.5 รายงานผลการดำเนินงาน ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะตามความเหมาะสม

2.6 ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

3. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ด้านอำนวยการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย

สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เบิกจ่ายตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป

9. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 43/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 43/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ดังนี้

ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 อันมีผลทำให้องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต่อ 1 นักเรียน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 296/2554 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ได้เปลี่ยนแปลงไป

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 296/2554 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

1. องค์ประกอบ นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษา/กรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายอรพงศ์ เทียนเงิน นางอาภัททรา ศฤงคารินกุล นางสาวอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล โดยมี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม นาวาอากาศเอก สุรพล นะวะมวัฒน์ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

2. อำนาจหน้าที่

1) กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ระดับชาติ สำหรับนโยบายคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน เพื่อใช้ในการเรียนการสอนของนักเรียน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และการให้บริการเครือข่ายไร้สายสนับสนุนการใช้งานคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ในโรงเรียนตามนโยบายของรัฐบาล

2) ดำเนินการบูรณาการงบประมาณและประสานการดำเนินงานร่วมกับส่วนราชการและ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพี่อให้สามารถดำเนินงานตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อนำคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ไปใช้ในโรงเรียน ซึ่งเป็นโครงการนำร่องไปสู่การปฏิบัติในระดับชาติ

3) วางกรอบนโยบายเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่จุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้ รวมทั้งกำกับและติดตามผลการดำเนินงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4) ขอความร่วมมือส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน รวมทั้งเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารหลักฐานจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ได้

5) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย

6) ดำเนินการอื่น ๆ ตามความจำเป็น เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

7) ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ