คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอทั้ง 2 ข้อ ดังนี้
1. อนุมัติการค้ำประกันเงินกู้
2. ขยายระยะเวลาการกู้เงินโครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 จำนวน 964,386,034.73 บาท ตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป จนกว่าสำนักงบประมาณจะสามารถจัดสรรงบประมาณให้แก่โครงการฯ เสร็จสิ้นโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และรัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยจากการกู้เงิน รวมทั้งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเดิม ร้อยละ 2.50 ต่อปี และงดคิดดอกเบี้ยเพิ่ม
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำแผนธุรกิจและแผนการชำระหนี้ เพื่อใช้ประกอบการวางแผนชำระคืนเงินกู้คงค้างขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้ชัดเจน ตลอดจนเร่งรัดดำเนินการจำหน่ายข้าวในโครงการฯ ที่คงเหลือให้หมดในช่วงเวลาที่เหมาะสมโดยเร้ว โดยผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ การส่งออกข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ และการซื้อขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น เพื่อให้สามารถมีเงินกลับเข้ามาชำระหนี้คืน ซึ่งจะเป็นไปตามมติคณะรัฐมตรีเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 และสำนักงบประมาณจะได้จัดสรรงบประมาณชำระส่วนที่เหลือและที่ขาดทุนต่อไป ซึ่งจะช่วยลดภาระงบประมาณในการเก็บรักษาคุณภาพข้าวและดอกเบี้ยเงินกู้ และเป็นการลดความความสูญเสียและเสื่อมคุณภาพจากการเก็บรักษาข้าวสารในโกดังเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งเป็นการรองรับผลผลิตข้าวที่จะเข้ามาเพิ่มเติมจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิตใหม่ด้วย นอกจากนั้น อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรควรรายงานปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการให้คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติได้รับทราบสถานการณ์เป็นระยะ ๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและดำเนินการระบายข้าวได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 มีนาคม 2555--จบ--