เรื่อง รายงานการพิจาณาศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล
เรื่อง “กรณีกล่าวหาการทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง”
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการพิจาณาศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล เรื่อง “กรณีกล่าวหาการทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง” และผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
สรุปผลการดำเนินการตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เรื่อง “กรณีกล่าวหาการทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง”
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ลำดับ ประเด็น สรุปผลการดำเนินการของส่วนราชการ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
1 อำนาจหน้าที่ในการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับเรื่องไว้พิจารณา การจัดซื้อแบบสัญญารัฐต่อรัฐ (G to G) นั้น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน
ปลัดสำนักนายรัฐมนตรีที่จะพิจารณาดำเนินการได้ ตามพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการ
บริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุง
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 5 และมาตรา 12 กำหนดให้โอน
บรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้ สิทธิ ภาระผูกพัน
ข้าราชการ ลูกจ้าง และอัตรากำลังของสำนักนายกรัฐมตรีในส่วนของสำนักงานปลัด
สำนักนายกรัฐมนตรี เฉพาะที่เกี่ยวกับงานระเบียบพัสดุ ไปเป็นของกรมบัญชีกลาง
กระทรวงการคลัง
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
รานงานฯ ดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวง
ราชการ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรที่กฎหมาย
บัญญัติให้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาเรื่องลักษณะดังกล่าวโดยตรง โดยผู้ตรวจการ
แผ่นดินได้มีนโยบายไม่รับพิจารณา โดยส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้
แล้ว ตามมาตรา 29 และ มาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
ผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 และรายงานฯ นี้ได้ยื่นฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อศาล
ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ซึ่งมาตรา 28 (2) แห่ง
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 บัญญัติห้ามผู้
ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่มีลักษณะดังกล่าวไว้พิจารณา
-------------------------------------------------------------------------------------------------
2 ระเบียบการจัดซื้อ กระทรวงการคลัง
แบบสัญญารัฐต่อรัฐ (G to G) ส่วนราชการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้จัดซื้อโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล
(G to G) ในการกำหนดข้อตกลงรายละเอียดต่างๆ ที่กำหนดขึ้นด้วยความเห็นชอบ
ระหว่างคู่สัญญาแทนการทำสัญญา หากหน่วยงานผู้จัดหาเห็นว่าข้อตกลงหรือรายละเอียด
ต่างๆ จะมีปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอก็ให้ส่งร่างสัญญานั้นไปให้สำนัก
อัยการสูงสุดพิจารณาก่อนทำข้อตกลงดังกล่าว
-------------------------------------------------------------------------------------------------
3 ข้อตกลงความเข้าใจ กระทรวงการต่างประเทศ (Agreement on 1. ยืนยันผลการพิจารณาที่ได้เคยให้ไว้แก่ คณะอนุกรรมการไต่สวน
Understanding A.O.U.) สำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนี้
1.1 เห็นว่า Agreement of Understanding (AOU)ในการจัดหารถดับเพลิงและ
อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยที่คณะกรรมาธิการฯ อ้างถึง เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมาย
ระหว่างประเทศ
1.2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full power) ให้แก่นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อลง
นาม AOU
1.3 หากกระทรวง ทบวง กรมที่จะทำความตกลงกับต่างประเทศไม่ส่งเรื่องให้
กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเสนอความเห็นก่อนนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีก่อน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติคณะ
รัฐมนตรี
2. ข้อตกลงซื้อขายประกอบข้อตกลงความเข้าใจฯ ระหว่างกรุงเทพมหานครและ
บริษัท STEYR-DAIMLER-PUCH Spezialfahrzeug AG&CO KG เป็นสัญญาเชิง
พาณิชย์ ซึ่งมิใช่สนธิสัญญา จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดที่จะพิจารณา
-------------------------------------------------------------------------------------------------
4 การดำเนินการทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คดีอาญา ได้ดำเนินการทางคดีอาญา โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
ตำแหน่งทางการเมือง ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง
ชาติ โจทก์ กับนายโภคิน พลกุล ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน จำเลยมีคำสั่งประทับ
ฟ้องเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554
-------------------------------------------------------------------------------------------------
5 การดำเนินการทางคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครได้ขอให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องคดีต่อศาล โดยอัยการสูงสุด
ได้ฟ้องคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง แต่เนื่องจาก
ตามข้อตกลงซื้อขายฯ ข้อ 13 ที่กำหนดว่าหากคู่สัญญาไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ภาย
ใน 30 วัน นับจากวันเริ่มเจรจาจะต้องส่งเรื่องไปยังหอการค้านานาชาติ กรุง
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อขอให้ตั้งอนุญาโตตุลาการที่ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์
แลนด์ มิเช่นนั้นบริษัท สไตเออร์ อาจร้องขอต่อศาลให้จำหน่ายคดีได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
6 การดำเนินการ กรุงเทพมหานคร ทางคดีปกครอง 1. ได้มีคำสั่งให้ นายโภคิน พลกุล นายประชา มาลีนนท์ นายวัฒนา เมืองสุข
นายอิรักษ์ โกษะโยธิน และพลตำรวจตรี อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ให้รับผิดชอบจาก
การกระทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งต้องรับผิดในเงินค่าสินค้าที่มีการจ่าย
ในงวดต่อไป โดยรับผิดชอบคนละส่วนเท่าๆ กัน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่กทม. ต้อง
จ่ายอันเป็นผลมาจากสัญญาที่ทำขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
2. ดำเนินการฟ้องคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช กับพวกรวม 3 คน ต่อศาลปกครอง
3. นายโภคิน พลกุล นายประชา มาลีนนท์ นายวัฒนา เมืองสุข นายอิรักษ์ โกษะ
โยธิน ได้อุทธรณ์คำสั่งใช้ค่าสินไหมทดแทนภายในกำหนด โดยรัฐมนตรีกระทรวง
มหาดไทยได้วินิจฉัยยกอุทธรณ์แล้ว กรณีพลตำรวจตรี อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อยู่
ระหว่างการดำเนินการเพื่อพิจารณาอุทธรณ์
4. นายโภคิน พลกุล และนายวัฒนา เมืองสุข ได้ฟ้องกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครอง เรื่อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทด
แทนแก่กรุงเทพมหานคร ซี่งอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
5. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้ฟ้องกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา
นคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของ
ศาลปกครองกลาง
-------------------------------------------------------------------------------------------------
7 การดำเนินการทางวินัย กรุงเทพมหานคร
มีคำสั่งลงโทษปลด คุณหญิงณฐนนท หรือ ณัษฐนนท ทวีสิน และลงโทษไล่
พลตำรวจตรี อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ออกจากราชการ โดยพลตำรวจตรี อธิลักษณ์
ตันชูเกียรติ และคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน ได้ฟ้อง กทม. กับพวกรวม 2 คน
ต่อศาลปกครองกลาง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
-------------------------------------------------------------------------------------------------
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 มีนาคม 2555--จบ--