แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มหาวิทยาลัยนเรศวร
ร่างพระราชบัญญัติ
กระทรวงศึกษาธิการ
คณะรัฐมนตรี
ข้าราชการ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ซึ่งผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับคำนิยามว่า "ข้าราชการมหาวิทยาลัย …." และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. มหาวิทยาลัยนเรศวรมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น
2. มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมและพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ภายใต้วัตถุประสงค์ดังกล่าว โดยอาจแบ่งส่วนงานเป็น 1) สำนักงานมหาวิทยาลัย 2) วิทยาเขต 3) สถาบัน และอาจมีส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าส่วนงานดังกล่าว
3. ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการรัฐต้องจัดสรรงบประมาณนอกจากเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอื่น ๆ แก่มหาวิทยาลัยเพื่อให้มีการประกันคุณภาพการศึกษาไว้ได้
4. ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี และบุคคลใดไม่อาจยกอายุความหรือระยะเวลาในการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับมหาวิทยาลัยในเรื่องทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย และการจัดการเงินและทรัพย์สินซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเงื่อนไขที่ผู้อุทิศกำหนด ต้องได้รับความยินยอมจากผู้อุทิศหรือทายาท หากไม่ปรากฏบุคคลดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย
5. ให้มีสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรทางการบริหาร โดยให้มีกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่มาจากองค์กรต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยและบุคคลภายนอก
6. กำหนดให้นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย เว้นแต่กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหรืออาจได้รับเลือกใหม่อีกได้โดยให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 1) ตาย 2) ลาออก 3) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน 4) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยในประเภทนั้น 5) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 6) เป็นบุคคลล้มละลาย7) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
7. ให้อธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด โดยให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีตามคำแนะนำของอธิการบดี ให้มีคณะกรรมการประจำมหาวิทยาลัย สภาพนักงาน และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดี
8. กำหนดให้มีการประกันคุณภาพการศึกษา การประเมินส่วนงาน การดำเนินงานโดยรวมของมหาวิทยาลัย และหลักสูตรการเรียนการสอน และการวัดผลของหลักสูตรนั้น
9. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัย และเป็นผู้เสนอเรื่องของมหาวิทยาลัยต่อคณะรัฐมนตรี
10. มหาวิทยาลัยมีอำนาจกำหนดครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะเป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะให้กับผู้ได้รับวุฒิการศึกษาที่กำหนด รวมทั้งตรา เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยหรือส่วนงานของมหาวิทยาลัย และเครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายของนิสิตและผู้ปฏิบัติงานมหาวิทยาลัยได้ โดยทำเป็นข้อบังคับของมหาวิทยาลัยและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
11. ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน เงินงบประมาณ และรายได้ของมหาวิทยาลัยนเรศวรมาเป็นของมหาวิทยาลัยนเรศวรตามพระราชบัญญัตินี้
12. กำหนดมาตรการรองรับข้าราชการและลูกจ้างของส่วนราชการ การรับเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนอื่นของข้าราชการและลูกจ้าง สิทธิการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ และสิทธิการเปลี่ยนตำแหน่งของลูกจ้าง
13. กำหนดมาตรการรองรับสิทธิของข้าราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ และพนักงานของมหาวิทยาลัยที่แสดงเจตนาโอนมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือน สวัสดิการ และประโยชน์อย่างอื่นไม่น้อยกว่าเดิม และให้ถือว่าผู้นั้นออกจากงานเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดและได้รับบำเหน็จตามกฎหมายและกำหนดให้สมาชิกภาพของสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. มหาวิทยาลัยนเรศวรมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น
2. มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมและพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ภายใต้วัตถุประสงค์ดังกล่าว โดยอาจแบ่งส่วนงานเป็น 1) สำนักงานมหาวิทยาลัย 2) วิทยาเขต 3) สถาบัน และอาจมีส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าส่วนงานดังกล่าว
3. ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการรัฐต้องจัดสรรงบประมาณนอกจากเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอื่น ๆ แก่มหาวิทยาลัยเพื่อให้มีการประกันคุณภาพการศึกษาไว้ได้
4. ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี และบุคคลใดไม่อาจยกอายุความหรือระยะเวลาในการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับมหาวิทยาลัยในเรื่องทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย และการจัดการเงินและทรัพย์สินซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเงื่อนไขที่ผู้อุทิศกำหนด ต้องได้รับความยินยอมจากผู้อุทิศหรือทายาท หากไม่ปรากฏบุคคลดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย
5. ให้มีสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรทางการบริหาร โดยให้มีกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่มาจากองค์กรต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยและบุคคลภายนอก
6. กำหนดให้นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย เว้นแต่กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหรืออาจได้รับเลือกใหม่อีกได้โดยให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 1) ตาย 2) ลาออก 3) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน 4) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยในประเภทนั้น 5) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 6) เป็นบุคคลล้มละลาย7) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
7. ให้อธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด โดยให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีตามคำแนะนำของอธิการบดี ให้มีคณะกรรมการประจำมหาวิทยาลัย สภาพนักงาน และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดี
8. กำหนดให้มีการประกันคุณภาพการศึกษา การประเมินส่วนงาน การดำเนินงานโดยรวมของมหาวิทยาลัย และหลักสูตรการเรียนการสอน และการวัดผลของหลักสูตรนั้น
9. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัย และเป็นผู้เสนอเรื่องของมหาวิทยาลัยต่อคณะรัฐมนตรี
10. มหาวิทยาลัยมีอำนาจกำหนดครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะเป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะให้กับผู้ได้รับวุฒิการศึกษาที่กำหนด รวมทั้งตรา เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยหรือส่วนงานของมหาวิทยาลัย และเครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายของนิสิตและผู้ปฏิบัติงานมหาวิทยาลัยได้ โดยทำเป็นข้อบังคับของมหาวิทยาลัยและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
11. ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน เงินงบประมาณ และรายได้ของมหาวิทยาลัยนเรศวรมาเป็นของมหาวิทยาลัยนเรศวรตามพระราชบัญญัตินี้
12. กำหนดมาตรการรองรับข้าราชการและลูกจ้างของส่วนราชการ การรับเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนอื่นของข้าราชการและลูกจ้าง สิทธิการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ และสิทธิการเปลี่ยนตำแหน่งของลูกจ้าง
13. กำหนดมาตรการรองรับสิทธิของข้าราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ และพนักงานของมหาวิทยาลัยที่แสดงเจตนาโอนมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือน สวัสดิการ และประโยชน์อย่างอื่นไม่น้อยกว่าเดิม และให้ถือว่าผู้นั้นออกจากงานเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดและได้รับบำเหน็จตามกฎหมายและกำหนดให้สมาชิกภาพของสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-