คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. …. ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้มีคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เรียกโดยย่อว่า "กกภ." โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการมีภารกิจเกี่ยวกับการพิจารณาแนวทางการบริหารราชการร่วมกันของรองนายกรัฐมนตรีทุกคนให้การปฏิบัติราชการเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ข้อยุติ
2. ให้มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ส.กกภ.) เป็นหน่วยงานในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานธุรการและงานเลขานุการของคณะกรรมการ
3. กำหนดขอบเขตในการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการและอำนาจหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรี
4. กรณีมีความจำเป็นต้องได้รับจัดสรรเงินงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ให้รองนายก-รัฐมนตรีมีอำนาจในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่ออนุมัติการจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่หน่วยงานของรัฐ หากเกินวงเงินให้รองนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งเป็นผู้พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมและความจำเป็น
5. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบในการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบสารสนเทศของจังหวัดกับส่วนราชการต่าง ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-
ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้มีคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เรียกโดยย่อว่า "กกภ." โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการมีภารกิจเกี่ยวกับการพิจารณาแนวทางการบริหารราชการร่วมกันของรองนายกรัฐมนตรีทุกคนให้การปฏิบัติราชการเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ข้อยุติ
2. ให้มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ส.กกภ.) เป็นหน่วยงานในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานธุรการและงานเลขานุการของคณะกรรมการ
3. กำหนดขอบเขตในการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการและอำนาจหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรี
4. กรณีมีความจำเป็นต้องได้รับจัดสรรเงินงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ให้รองนายก-รัฐมนตรีมีอำนาจในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่ออนุมัติการจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่หน่วยงานของรัฐ หากเกินวงเงินให้รองนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งเป็นผู้พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมและความจำเป็น
5. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบในการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบสารสนเทศของจังหวัดกับส่วนราชการต่าง ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-