ขอปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับแก้ไขหลักเกณฑ์และแนวทางในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

1. กำหนดระยะเวลาการทำสัญญาเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการเป็นระยะเวลา 5 ปี

2. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการคำนวณอัตราค่าเช่ารถยนต์จากอัตราเดิมปรับลดลงประมาณร้อยละ 10 เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประหยัดงบประมาณของทางราชการสูงสุด

สาระสำคัญของเรื่อง

กค. รายงานว่า

1. เนื่องจากมีส่วนราชการหลายแห่งเห็นว่า หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการที่กำหนดให้ต้องทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 3 ปี จะทำให้ส่วนราชการต้องทำการเปลี่ยนรถยนต์ที่เช่าเป็นรถยนต์เช่าคันใหม่ทุก ๆ 3 ปี ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณของทางราชการโดยไม่จำเป็น เนื่องจากรถยนต์ที่เช่ามาใช้ในราชการที่มีกำหนดระยะเวลาเช่า 5 ปี ในระยะเวลาที่ผ่านมายังสามารถใช้งานได้ดีและมีประสิทธิภาพ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรถยนต์เช่าคันใหม่ทุก ๆ 3 ปี แต่อย่างใด อีกทั้งการทำสัญญาเช่ารถยนต์มีระยะเวลา 5 ปี จะทำให้สามารถเช่ารถยนต์ไว้ใช้ในราชการในอัตราเช่ารถยนต์ที่ต่ำกว่าการเช่ารถยนต์ไว้ใช้ในราชการเป็นระยะเวลา 3 ปี กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ ได้ร่วมประชุมหารือและพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดและหลักเกณฑ์การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการเพิ่มเติม เพื่อให้ประหยัดงบประมาณของทางราชการมากยิ่งขึ้น และที่ประชุมได้มีมติดังต่อไปนี้

1.1 กำหนดระยะเวลาเช่ารถยนต์ เห็นควรเปลี่ยนแปลงระยะเวลาทำสัญญาเช่าจาก 3 ปี เป็น 5 ปี เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในส่วนของรายการค่าเช่ารถยนต์ เนื่องจากผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์จะเสนอราคาค่าเช่าในอัตราที่ต่ำกว่าการทำสัญญาเช่ารถยนต์เป็นระยะเวลา 3 ปี ประกอบกับมีข้อเสนอแนะของส่วนราชการหลายแห่งที่เห็นว่า รถยนต์ที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานที่มีระยะเวลาการใช้ 5 ปี หากมีการบำรุงรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่องจะมีสภาพและสมรรถนะที่สามารถรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 สูตรการคำนวณอัตราค่าเช่ารถยนต์ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ดังนี้

1.2.1 ปรับลดรายการค่ากำไร จากเดิมร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารปัจจุบันที่ปรับลดลงซึ่งอัตราที่ปรับลดดังกล่าวยังคงสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร

1.2.2 ปรับลดค่าซ่อมบำรุงรักษาและน้ำมันหล่อลื่นให้ปรับลดลงในภาพรวมร้อยละ 10 จากที่กำหนดไว้เดิม เนื่องจากการคำนวณอัตราค่าเช่าเดิม กำหนดให้มีค่าซ่อม 2 รายการ คือ 1) ค่าซ่อมปกติ 2) ค่าซ่อมกลางและค่าน้ำมันหล่อลื่น

1.2.3 ปรับค่าอำนวยการและค่ารถทดแทนจากเดิมร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 8 เนื่องจากข้อเท็จจริงพบว่า การใช้รถยนต์ของส่วนราชการมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นน้อยมาก โอกาสที่ผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ต้องจัดรถทดแทนให้ส่วนราชการจึงมีน้อย

1.2.4 ปรับลดค่าเบี้ยประกันภัยชั้น 1 จากเดิมร้อยละ 2.4 ของราคารถยนต์ เป็นร้อยละ 1.2 เนื่องจากสูตรการคำนวณอัตราค่าเช่ารถยนต์ได้กำหนดค่ากำไรให้ผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์แล้ว จึงเห็นควรให้ผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ร่วมรับผิดชอบค่าเบี้ยประกันภัยกับรัฐในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากการปรับสูตรการคำนวณตามรายการข้างต้นจะทำให้อัตราค่าเช่ารถยนต์ประเภทต่าง ๆ ตามที่ กค. กำหนดมีอัตราลดลงประมาณ ร้อยละ 10

การปรับปรุงดังกล่าวให้ใช้กับการทำสัญญาเช่ารถยนต์ใหม่เท่านั้น ส่วนสัญญาเช่ารถยนต์ที่ทำไปแล้วก่อนที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์เดิมต่อไปจนกว่าสัญญาเช่าจะสิ้นสุด

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2555--จบ--