คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่อง การวางหลักประกันการรื้อถอนสิ่งติดตั้งออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดหลักเกณฑ์ของผู้รับสัมปทานที่ต้องวางหลักประกันการรื้อถอน ได้แก่ ผู้รับสัมปทานประเมินสถานะทางการเงินไม่ผ่าน หรือกรณีเหลือระยะเวลาห้าปีสุดท้ายของระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมตามสัมปทานฉบับล่าสุด เป็นต้น (ร่างข้อ 1)
2. กำหนดสัดส่วนของหลักประกันที่จะต้องวางสำหรับการวางหลักประกันในกรณีที่ผู้รับสัมปทานประเมินสถานะทางการเงินไม่ผ่าน หรือกรณีเหลือระยะเวลาห้าปีสุดท้ายของระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมตามสัมปทานฉบับล่าสุด ให้เป็นไปตามที่กำหนดในเอกสารแนบท้ายกฎกระทรวง (ร่างข้อ 2)
3. กำหนดให้หลักประกันการรื้อถอน ได้แก่ เงินสด พันธบัตรของรัฐบาลไทย สัญญาค้ำประกันของธนาคาร หลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมถึงสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตประเภทเพิกถอนไม่ได้ และบัญชีเงินสดซึ่งอยู่ในการจัดการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา และผู้รับสัมปทานสามารถวางหลักประกันการรื้อถอนดังกล่าวประเภทเดียวทั้งหมดหรือหลายประเภทรวมกันก็ได้ (ร่างข้อ 5 ถึงร่างข้อ 6)
4. กำหนดให้อธิบดีคืนหลักประกันการรื้อถอนที่ผู้รับสัมปทานได้วางไว้เต็มจำนวนหรือตามสัดส่วนที่ระบุในรายงานผลการปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งติดตั้ง (Closeout Report for Decommissioning) หรือในรายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายหลังการรื้อถอน (Closeout Report for Post-decommissioning) ภายใน 30 วันนับจากวันที่อธิบดีให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าว (ร่างข้อ 8)
5. กำหนดให้ผู้รับสัมปทานมีหน้าที่ประเมินสถานะทางการเงินและยื่นผลการประเมินครั้งแรกไปพร้อมกับแผนงานการรื้อถอน สำหรับการประเมินสถานะทางการเงินและยื่นผลการประเมินครั้งต่อไป ให้ผู้รับสัมปทานประเมินสถานะทางการเงินและยื่นผลการประเมินดังกล่าวเป็นรายปีภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน โดยการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในเอกสารแนบท้ายกฎกระทรวง (ร่างข้อ 9)
6. กำหนดบทเฉพาะกาลสำหรับผู้รับสัมปทานที่ได้รับสัมปทานอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับและเข้าข่ายจะต้องวางหลักประกันการรื้อถอนหรือประเมินสถานะทางการเงินและยื่นผลการประเมินตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ให้วางหลักประกันการรื้อถอน หรือยื่นผลการประเมินสถานะทางการเงินภายในกำหนดสองปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ (ร่างข้อ 11)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2555--จบ--