คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขออนุมัติงบกลางประจำปีงบประมาณ 2547 เพื่อใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ กระทรวงยุติธรรมเสนอแล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ส่วนราชการจำนวน 3 หน่วยงาน เบิกจ่ายงบกลาง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 94,270,000 บาท ดังนี้
1.1 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 10,180,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งในพื้นที่ชายแดน
1.2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านยองข่า
1.3 กรมการปกครอง จำนวน 74,090,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการจัดตั้งชมรมพลังแผ่นดินท้องถิ่นท้องที่สามัคคี
2. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปรับ แผนและงบประมาณในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2547 ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ส. และศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศตส.) รวมทั้งแจ้งให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ปรับแผนและงบประมาณตามแนวทางการดำเนินงานกรอบกิจกรรมและเป้าหมายใหม่ที่กำหนดในแต่ละยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า
1. ที่ประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ส. กับ ศตส. ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2547 มีมติเห็นชอบให้ปรับแผนการและงบประมาณในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2547 เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดตาม Roadmap ระยะที่ 3 และแนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการ กำกับ และติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณด้านยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อเสนอและรายละเอียดของการปรับแผนและงบประมาณ เสนอ ป.ป.ส. และ ศตส. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
2. คณะอนุกรรมการบริหารจัดการ กำกับ และติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณด้านยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานได้มีการประชุม ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547 ในข้อ 1 และมีมติให้มีการปรับแผนภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ก่อน รวมทั้งขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้ 3 หน่วยงานเป็นเงินจำนวน 94,270,000 บาท ตามข้อ 1 จากนั้นหลังดำเนินการไปแล้ว 3 เดือน จะมีการประเมินสถานกาณ์และผลการดำเนินงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือปรับลดเป้าหมายและงบประมาณให้สอดคล้องกันต่อไป รวมทั้งให้ความเห็นชอบการปรับเป้าหมายการดำเนินงาน แนวทางการปฏิบัติในแต่ละยุทธศาสตร์กรอบกิจกรรมหลัก และวงเงินงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับแผนปฏิบัติการให้สอดคลัองกับเป้าหมายใหม่ และการปรับเกลี่ยงบประมาณของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบตามความจำเป็น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
1. ให้ส่วนราชการจำนวน 3 หน่วยงาน เบิกจ่ายงบกลาง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 94,270,000 บาท ดังนี้
1.1 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 10,180,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งในพื้นที่ชายแดน
1.2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านยองข่า
1.3 กรมการปกครอง จำนวน 74,090,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการจัดตั้งชมรมพลังแผ่นดินท้องถิ่นท้องที่สามัคคี
2. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปรับ แผนและงบประมาณในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2547 ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ส. และศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศตส.) รวมทั้งแจ้งให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ปรับแผนและงบประมาณตามแนวทางการดำเนินงานกรอบกิจกรรมและเป้าหมายใหม่ที่กำหนดในแต่ละยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า
1. ที่ประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ส. กับ ศตส. ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2547 มีมติเห็นชอบให้ปรับแผนการและงบประมาณในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2547 เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดตาม Roadmap ระยะที่ 3 และแนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการ กำกับ และติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณด้านยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อเสนอและรายละเอียดของการปรับแผนและงบประมาณ เสนอ ป.ป.ส. และ ศตส. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
2. คณะอนุกรรมการบริหารจัดการ กำกับ และติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณด้านยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานได้มีการประชุม ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547 ในข้อ 1 และมีมติให้มีการปรับแผนภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ก่อน รวมทั้งขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้ 3 หน่วยงานเป็นเงินจำนวน 94,270,000 บาท ตามข้อ 1 จากนั้นหลังดำเนินการไปแล้ว 3 เดือน จะมีการประเมินสถานกาณ์และผลการดำเนินงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือปรับลดเป้าหมายและงบประมาณให้สอดคล้องกันต่อไป รวมทั้งให้ความเห็นชอบการปรับเป้าหมายการดำเนินงาน แนวทางการปฏิบัติในแต่ละยุทธศาสตร์กรอบกิจกรรมหลัก และวงเงินงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับแผนปฏิบัติการให้สอดคลัองกับเป้าหมายใหม่ และการปรับเกลี่ยงบประมาณของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบตามความจำเป็น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-