คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการตามนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
สถานการณ์ผู้มีอิทธิพล
1. มีผู้มีอิทธิพลตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย ที่กระทำความผิด จำนวน 1,351 คน และแนวโน้มจะทำความผิดจำนวน 1,793 คน รวมทั้งสิ้น 3,144 คน
2. มีผู้มีอิทธิพลตามบัญชีของคณะอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลครั้งที่ 1,2,3,4 (บัญชีของกระทรวงกลาโหม) จำนวน 58 จังหวัด มีแกนนำ 332 คน เครือข่าย 1,071 คน รวม 1,403 คน แยกเป็น
2.1 ผู้มีอิทธิพลที่เป็นแกนนำและเครือข่ายระดับภาคและระดับชาติ ซึ่งเกินขีดความสามารถในการดำเนินการของจังหวัด โดยเป็นหน้าที่ของส่วนกลางจะเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบด้วยแกนนำ 34 คน เครือข่าย 42 คน รวม 76 คน
2.2 ผู้มีอิทธิพลที่เป็นแกนนำและเครือข่าย ซึ่งอยู่ในขีดความสามารถในการดำเนินการของจังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดต่าง ๆ ปรับบัญชีรายชื่อของกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับบัญชีรายชื่อของกระทรวงมหาดไทย ด้วยการจำแนกเป็นผู้กระทำความผิด และผู้มีแนวโน้มจะกระทำความผิด ประกอบด้วยแกนนำ 298 คน เครือข่าย 1,029 คน รวม 1,327 คน ซึ่งปรากฏผลการตรวจสอบพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล ดังนี้ (1) เป็นผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิด จำนวน 46 คน (2) เป็นผู้มีอิทธิพลที่มีแนวโน้มจะกระทำความผิด จำนวน 212 คน (3) เป็นผู้ที่จังหวัดตรวจสอบแล้วไม่พบพฤติการณ์ไม่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัด เสียชีวิต ไม่พบในฐานข้อมูลทำให้ไม่สามารถหาตัวบุคคลได้และมีชื่อซ้ำกันรวม 895 คน (4) อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อยืนยังข้อมูลอีก จำนวน 174 คน
3. ผลการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิด3.1 ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย
เป็นบุคคลทั่วไป จำนวน 1,282 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 69 คน รวมทั้งสิ้น 1,351 คน ที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิดเป็นผู้มีอิทธิพลและได้มีการจับกุมดำเนินคดีอาญา 1,120 คน ดำเนินการทางวินัย 2 คน และจำหน่ายคดีเนื่องจากพ้นวิสัยในการดำเนินการ 44 คน รวมความก้าวหน้า 1,166 คน คิดเป็นร้อยละ 86.31
อนึ่ง คณะอนุกรรมการดำเนินการตรวจสอบกำกับดูแลการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ได้มีมติคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2546 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546 ให้จังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลส่งข้อมูลบุคคลที่เป็นผู้มีอิทธิพลตามบัญชีรายชื่อเป้าหมายที่ได้ออกหมายจับตามฐานความผิด แล้วยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประมวลผลและดำเนินการเชิงนโยบาย ให้มีการระดมกำลังกวาดล้างอย่างเฉียบขาดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รวบรวมและส่งข้อมูลบุคคลดังกล่าว จำนวน 52 จังหวัด 164 คน ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการแล้ว
3.2 ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงกลาโหม
ผู้มีอิทธิพลที่เป็นผู้กระทำความผิดและอยู่ในขีดความสามารถของจังหวัดตามข้อ2.2 (1) จำนวน 46 คน เป็นบุคคลทั่วไป จำนวน 37 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 9 คน ได้มีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีอาญา 39 คน ดำเนินการทางวินัย-คน และจำหน่ายคดีเนื่องจากพ้นวิสัยการดำเนินการ 2 คน รวมความก้าวหน้า 41 คน คิดเป็นร้อยละ 89.13
ผลการดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลที่มีแนวโน้มจะกระทำความผิด1. ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย เป็นบุคคลทั่วไป 1,632 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 161 คน รวมทั้งสิ้น 1,793 คน ได้เลิกพฤติการณ์ 1,270 คน พ้นวิสัยในการดำเนินการ 22 คน รวมความก้าวหน้า 1,292 คน คิดเป็นร้อยละ 72.062. ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงกลาโหมผู้มีแนวโน้มจะกระทำความผิดตามข้อ 2.2 (2) รวม 212 คน เป็นบุคคลทั่วไป 111 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 101 คน ไดเลิกพฤติการณ์ 6 คน พ้นวิสัยในการดำเนินการ - คน รวม ความก้าวหน้า 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.83
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
สถานการณ์ผู้มีอิทธิพล
1. มีผู้มีอิทธิพลตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย ที่กระทำความผิด จำนวน 1,351 คน และแนวโน้มจะทำความผิดจำนวน 1,793 คน รวมทั้งสิ้น 3,144 คน
2. มีผู้มีอิทธิพลตามบัญชีของคณะอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลครั้งที่ 1,2,3,4 (บัญชีของกระทรวงกลาโหม) จำนวน 58 จังหวัด มีแกนนำ 332 คน เครือข่าย 1,071 คน รวม 1,403 คน แยกเป็น
2.1 ผู้มีอิทธิพลที่เป็นแกนนำและเครือข่ายระดับภาคและระดับชาติ ซึ่งเกินขีดความสามารถในการดำเนินการของจังหวัด โดยเป็นหน้าที่ของส่วนกลางจะเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบด้วยแกนนำ 34 คน เครือข่าย 42 คน รวม 76 คน
2.2 ผู้มีอิทธิพลที่เป็นแกนนำและเครือข่าย ซึ่งอยู่ในขีดความสามารถในการดำเนินการของจังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดต่าง ๆ ปรับบัญชีรายชื่อของกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับบัญชีรายชื่อของกระทรวงมหาดไทย ด้วยการจำแนกเป็นผู้กระทำความผิด และผู้มีแนวโน้มจะกระทำความผิด ประกอบด้วยแกนนำ 298 คน เครือข่าย 1,029 คน รวม 1,327 คน ซึ่งปรากฏผลการตรวจสอบพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล ดังนี้ (1) เป็นผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิด จำนวน 46 คน (2) เป็นผู้มีอิทธิพลที่มีแนวโน้มจะกระทำความผิด จำนวน 212 คน (3) เป็นผู้ที่จังหวัดตรวจสอบแล้วไม่พบพฤติการณ์ไม่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัด เสียชีวิต ไม่พบในฐานข้อมูลทำให้ไม่สามารถหาตัวบุคคลได้และมีชื่อซ้ำกันรวม 895 คน (4) อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อยืนยังข้อมูลอีก จำนวน 174 คน
3. ผลการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิด3.1 ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย
เป็นบุคคลทั่วไป จำนวน 1,282 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 69 คน รวมทั้งสิ้น 1,351 คน ที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิดเป็นผู้มีอิทธิพลและได้มีการจับกุมดำเนินคดีอาญา 1,120 คน ดำเนินการทางวินัย 2 คน และจำหน่ายคดีเนื่องจากพ้นวิสัยในการดำเนินการ 44 คน รวมความก้าวหน้า 1,166 คน คิดเป็นร้อยละ 86.31
อนึ่ง คณะอนุกรรมการดำเนินการตรวจสอบกำกับดูแลการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ได้มีมติคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2546 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546 ให้จังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลส่งข้อมูลบุคคลที่เป็นผู้มีอิทธิพลตามบัญชีรายชื่อเป้าหมายที่ได้ออกหมายจับตามฐานความผิด แล้วยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประมวลผลและดำเนินการเชิงนโยบาย ให้มีการระดมกำลังกวาดล้างอย่างเฉียบขาดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รวบรวมและส่งข้อมูลบุคคลดังกล่าว จำนวน 52 จังหวัด 164 คน ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการแล้ว
3.2 ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงกลาโหม
ผู้มีอิทธิพลที่เป็นผู้กระทำความผิดและอยู่ในขีดความสามารถของจังหวัดตามข้อ2.2 (1) จำนวน 46 คน เป็นบุคคลทั่วไป จำนวน 37 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 9 คน ได้มีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีอาญา 39 คน ดำเนินการทางวินัย-คน และจำหน่ายคดีเนื่องจากพ้นวิสัยการดำเนินการ 2 คน รวมความก้าวหน้า 41 คน คิดเป็นร้อยละ 89.13
ผลการดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลที่มีแนวโน้มจะกระทำความผิด1. ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงมหาดไทย เป็นบุคคลทั่วไป 1,632 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 161 คน รวมทั้งสิ้น 1,793 คน ได้เลิกพฤติการณ์ 1,270 คน พ้นวิสัยในการดำเนินการ 22 คน รวมความก้าวหน้า 1,292 คน คิดเป็นร้อยละ 72.062. ผลการดำเนินการตามบัญชีของกระทรวงกลาโหมผู้มีแนวโน้มจะกระทำความผิดตามข้อ 2.2 (2) รวม 212 คน เป็นบุคคลทั่วไป 111 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 101 คน ไดเลิกพฤติการณ์ 6 คน พ้นวิสัยในการดำเนินการ - คน รวม ความก้าวหน้า 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.83
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-