คณะรัฐมนตรีอนุมัติการณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
1. มาตรการปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันหลังเวลา 24.00 น.
- การปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันจะส่งผลด้านจิตวิทยากับประชาชนทั่วไปให้ประหยัดน้ำมันอย่างจริงจังและส่งผลในการลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ประมาณ 5% ของการใช้ (จากข้อมูลวิกฤติราคาน้ำมันปี 2523) หรือประมาณ1,260 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 19,000 ล้านบาทต่อปี ในปีปัจจุบัน
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการสถานีจำหน่ายน้ำมันเพื่อปิดสถานีจำหน่ายในระหว่างเวลา 24.00 น. ถึง 05.00 น. เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนหันมาประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง
2. มาตรการปิดไฟโฆษณา หลังเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
- การปิดไฟในช่วงเวลาดังกล่าว มีผลกระทบน้อยต่อการโฆษณา แต่มีผลด้านจิตวิทยากับประชาชนทั่วไป และช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ 7 ชั่วโมง รวมการใช้ไฟฟ้าลดลง 23 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 57 ล้านบาทต่อปี
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาในการปิดไฟป้ายโฆษณา หลังเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
3. มาตรการปิดไฟถนนบางสาย
- การปิดไฟถนนบางสายที่ไม่มีรถคับคั่งและเปิดไฟถนนเฉพาะบริเวณทางแยก จะช่วยประหยัดไฟฟ้า 68 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 170 ล้านบาทต่อปี แต่ยังคงมีประเด็นห่วงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจรในบางเส้นทางและบางพื้นที่
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่นร่วมกันพิจารณาเลือกปิดไฟบนถนนบางสายหรือบางช่วงโดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
4. มาตรการเพิ่มภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่ (เกินกว่า 2,500 ซีซี) จะใช้น้ำมันที่เกินความจำเป็น จึงควรส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็ก
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง พิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีป้ายวงกลมและภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเกิน 2,500 ซีซี
5. ให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงาน
- หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจควรเป็นตัวอย่างในการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะเพื่อส่งเอกสารและติดต่อราชการ
- เห็นควรมอบหมายให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 ไตรมาสที่ 4 ลง 10% ของหมวดค่าใช้สอยด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของทุกส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และให้ทุกหน่วยงานรายงานการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันให้กระทรวงพลังงานทราบอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกไตรมาส
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
1. มาตรการปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันหลังเวลา 24.00 น.
- การปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันจะส่งผลด้านจิตวิทยากับประชาชนทั่วไปให้ประหยัดน้ำมันอย่างจริงจังและส่งผลในการลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ประมาณ 5% ของการใช้ (จากข้อมูลวิกฤติราคาน้ำมันปี 2523) หรือประมาณ1,260 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 19,000 ล้านบาทต่อปี ในปีปัจจุบัน
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการสถานีจำหน่ายน้ำมันเพื่อปิดสถานีจำหน่ายในระหว่างเวลา 24.00 น. ถึง 05.00 น. เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนหันมาประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง
2. มาตรการปิดไฟโฆษณา หลังเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
- การปิดไฟในช่วงเวลาดังกล่าว มีผลกระทบน้อยต่อการโฆษณา แต่มีผลด้านจิตวิทยากับประชาชนทั่วไป และช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ 7 ชั่วโมง รวมการใช้ไฟฟ้าลดลง 23 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 57 ล้านบาทต่อปี
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาในการปิดไฟป้ายโฆษณา หลังเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
3. มาตรการปิดไฟถนนบางสาย
- การปิดไฟถนนบางสายที่ไม่มีรถคับคั่งและเปิดไฟถนนเฉพาะบริเวณทางแยก จะช่วยประหยัดไฟฟ้า 68 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 170 ล้านบาทต่อปี แต่ยังคงมีประเด็นห่วงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจรในบางเส้นทางและบางพื้นที่
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่นร่วมกันพิจารณาเลือกปิดไฟบนถนนบางสายหรือบางช่วงโดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
4. มาตรการเพิ่มภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่ (เกินกว่า 2,500 ซีซี) จะใช้น้ำมันที่เกินความจำเป็น จึงควรส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็ก
- เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง พิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีป้ายวงกลมและภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเกิน 2,500 ซีซี
5. ให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงาน
- หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจควรเป็นตัวอย่างในการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะเพื่อส่งเอกสารและติดต่อราชการ
- เห็นควรมอบหมายให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 ไตรมาสที่ 4 ลง 10% ของหมวดค่าใช้สอยด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของทุกส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และให้ทุกหน่วยงานรายงานการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันให้กระทรวงพลังงานทราบอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกไตรมาส
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-