คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงกลาโหม (กห.) โดยกองทัพไทยจัดส่งกำลังพล เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเลบานอน (United Nations Interim Force in Lebanon : UNIFIL) โดยให้ได้รับสิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณและการพิจารณาบำเหน็จพิเศษของกำลังพลที่ร่วมปฏิบัติงานในภารกิจ UNIFIL ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ พ.ศ. 2494 รวมทั้งสิทธิในการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉินตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉิน พ.ศ. 2529 ตลอดช่วงเวลาปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และให้การปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลถือเป็นการปฏิบัติราชการพิเศษตามที่ กห. กำหนด โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แจ้งยืนยันกับสหประชาชาติต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กห.รายงานว่า
1. กห. ได้รับแจ้งจาก กต. ว่า สหประชาชาติขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 1 นาย ชั้นยศนาวาตรี เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่นายทหารประจำศูนย์ปฏิบัติการทางเรือ (Duty Officer, Naval Operations Center : NOC) ในภารกิจ UNIFIL ซึ่งเป็นภารกิจสังเกตการณ์การถอนกำลังของอิสราเอลออกจากสาธารณรัฐเลบานอน การยุติความขัดแย้งในพื้นที่ การสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพเลบานอน และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนและผู้พลัดถิ่นฐานในพื้นที่ ตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1701 (2006) โดยภารกิจดังกล่าวได้จัดตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978) และนับได้ว่าเป็นภารกิจที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูงภารกิจหนึ่งของสหประชาชาติ ปัจจุบันภารกิจดังกล่าวประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทางทหาร จำนวน 15,000 นาย โดยมีประเทศจากทั่วทุกภูมิภาคของโลกที่ให้การสนับสนุนกำลังพล รวม 36 ประเทศ โดยตำแหน่งดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ปฏิบัติการทางเรือ จึงไม่น่ามีข้อห่วงใยในเรื่องความปลอดภัย และอาจได้รับการจัดสรรอัตราเพิ่มขึ้นในอนาคต
2. กห. โดยกองทัพไทย มีความประสงค์ที่จะส่งกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจ UNIFIL โดยได้ดำเนินการตามมาตรา 38 ของพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พุทธศักราช 2551 ซึ่งกำหนดให้การใช้กำลังทหารในการปฏิบัติภารกิจเพื่อสันติภาพเป็นไปโดยความเห็นชอบของสภากลาโหม และสภากลาโหมได้ประชุมเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2555 และมีมติเห็นชอบการจัดส่งกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจ UNIFIL ซึ่ง กห. พิจารณาเห็นว่า การจัดส่งกำลังพลเป็นรายบุคคล เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจ UNIFIL เป็นไปตามนโยบายการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับต่างประเทศของรัฐบาลและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อสันติภาพในกรอบสหประชาชาติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2555--จบ--