คณะรัฐมนตรีรับทราบและอนุมัติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงานตามที่ กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้และวงเงินบาทสมทบ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2539 จากกรอบวงเงินกู้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นกรอบวงเงินกู้ 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกรอบวงเงินบาทสมทบ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นกรอบเงินวงเงินบาทสมทบ 53.236 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. อนุมัติให้ใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,184,909.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 47,396,378.32 บาท (ใช้อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 40 บาท) เพื่อชำระหนี้ตามสัญญา และขออนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกรณีมีการเพิ่ม-ลดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันชำระ
โดยกระทรวงแรงงานดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป
กระทรวงแรงงานเสนอว่า
1. การดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงานได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งผลการดำเนินโครงการฯ มีปัญหาและอุปสรรคสรุปได้ ดังนี้
1.1. ผลการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์
1) พัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานการฝึก 80 สาขา พัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานฝีมือแรงงาน 80 สาขา พัฒนาระบบการฝึกแบบอิงเกณฑ์ความสามารถและชุดการฝึก CBST (Competency Based Skill Training) จำนวน 25 ชุดการฝึก ตลอดจนพัฒนาระบบจัดการฝึก
2) จัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์การฝึก เพื่อใช้ในการพัฒนาฝีมือแรงงานในพื้นที่เป้าหมาย 22 แห่ง
3)จัดฝึกอบรมบุคลากรของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 3,754 คน
1.2 ผลการใช้จ่ายเงินตามโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน
1) เงินกู้
(1) วงเงินกู้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน จำนวน 68.037 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ เทคโนโลยีการฝึกจ้างที่ปรึกษา ซึ่งได้ก่อหนี้ผูกพันตามรายการและวงเงินที่ธนาคารพัฒนาเอเชียอนุมัติเห็นชอบมาโดยตลอด สิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายน 2545
(2) สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังได้ขอยกเลิกวงเงินกู้บางส่วน คงเหลือกรอบวงเงินกู้ จำนวน 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีผลกระทบทำให้มูลค่าสัญญาตามข้อ (1) ที่ก่อหนี้ผูกพันไว้สูงกว่ากรอบวงเงินกู้ จำนวน 1.543 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
(3) ผลจากการยกเลิกวงเงินกู้ ตามข้อ (2) จึงต้องเบิกจ่ายภายใต้กรอบวงเงินกู้ จำนวน 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2) เงินสมทบจากรัฐบาล
ภายใต้เงื่อนไขเงินบาทสมทบ วงเงินบาทสมทบ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้รับจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2540 - 2546 เป็นเงินจำนวน 1,791.607ล้านบาท (ประมาณ 52.051 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
2. ได้มีการประชุมหารือเพื่อแนวทางชำระหนี้ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2545 ซึ่งผลจากการประชุมสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอใช้งบประมาณจากโครงการความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 57.190 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์แทนรายการที่จะโอนไปชำระหนี้ และได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับการจัดสรรเงินภายใต้หนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความช่วยเหลือทางการเงินแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 57.190 ล้านบาท
2.2 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๖ งบลงทุนรายการค่าครุภัณฑ์ เพื่อชำระหนี้ตามสัญญา รายการที่โอนเป็นรายการที่ได้รับงบประมาณจัดสรรจากโครงการความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อจัดซื้อแทนแล้ว ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่าการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว จะทำให้กรอบวงเงินกู้และกรอบวงเงินบาทสมทบต่างไปจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
2.3 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณประจำปี 2546เนื่องจากงบประมาณปี พ.ศ. 2540 - 2546 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้รับจัดสรรเงินบาทสมทบ คิดเป็นเงินประมาณ 52.051 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณในครั้งนี้ จำนวน 1.248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ภายในกรอบวงเงินบาทสมทบจำนวน 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่าการยกเลิกวงเงินกู้ จำนวน 13.506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยภาพรวมกรอบวงเงินรวมทั้งโครงการฯจะต้องลดลง ประกอบกับการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 2546 จำนวน 54,034,440 บาท เพื่อไปสมทบโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงานทำให้สัดส่วนเงินกู้และเงินงบประมาณสมทบเปลี่ยนแปลง ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงิน และให้ความเห็นชอบในกรณีใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีไปชำระหนี้ส่วนเงินกู้ก่อน แล้วจึงขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
2.4 จากความเห็นสำนักงบประมาณในข้อ 2.3 ทำให้เหลือหนี้ผูกพันจำนวน 14สัญญา ซึ่งมีทั้งที่เป็นเงินสกุลไทยบาทและเงินสกุลต่างประเทศ คิดเป็นหนี้ที่ต้องชำระจำนวน 13,430,258.32 บาท และ 849,153 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1,184,909.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ
2.5 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้พิจารณาที่จะเจียดจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2547เพื่อนำมาชำระหนี้ผูกพัน 1.184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ปรากฏว่าจนถึง ณ วันที่ 28กุมภาพันธ์ 2547ไม่สามารถนำมาเจียดจ่ายชำระหนี้ได้จึงมีความจำเป็นต้องขอใช้จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
1. รับทราบการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้และวงเงินบาทสมทบ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2539 จากกรอบวงเงินกู้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นกรอบวงเงินกู้ 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกรอบวงเงินบาทสมทบ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นกรอบเงินวงเงินบาทสมทบ 53.236 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. อนุมัติให้ใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,184,909.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 47,396,378.32 บาท (ใช้อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 40 บาท) เพื่อชำระหนี้ตามสัญญา และขออนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกรณีมีการเพิ่ม-ลดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันชำระ
โดยกระทรวงแรงงานดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป
กระทรวงแรงงานเสนอว่า
1. การดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงานได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งผลการดำเนินโครงการฯ มีปัญหาและอุปสรรคสรุปได้ ดังนี้
1.1. ผลการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์
1) พัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานการฝึก 80 สาขา พัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานฝีมือแรงงาน 80 สาขา พัฒนาระบบการฝึกแบบอิงเกณฑ์ความสามารถและชุดการฝึก CBST (Competency Based Skill Training) จำนวน 25 ชุดการฝึก ตลอดจนพัฒนาระบบจัดการฝึก
2) จัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์การฝึก เพื่อใช้ในการพัฒนาฝีมือแรงงานในพื้นที่เป้าหมาย 22 แห่ง
3)จัดฝึกอบรมบุคลากรของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 3,754 คน
1.2 ผลการใช้จ่ายเงินตามโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน
1) เงินกู้
(1) วงเงินกู้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน จำนวน 68.037 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ เทคโนโลยีการฝึกจ้างที่ปรึกษา ซึ่งได้ก่อหนี้ผูกพันตามรายการและวงเงินที่ธนาคารพัฒนาเอเชียอนุมัติเห็นชอบมาโดยตลอด สิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายน 2545
(2) สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังได้ขอยกเลิกวงเงินกู้บางส่วน คงเหลือกรอบวงเงินกู้ จำนวน 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีผลกระทบทำให้มูลค่าสัญญาตามข้อ (1) ที่ก่อหนี้ผูกพันไว้สูงกว่ากรอบวงเงินกู้ จำนวน 1.543 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
(3) ผลจากการยกเลิกวงเงินกู้ ตามข้อ (2) จึงต้องเบิกจ่ายภายใต้กรอบวงเงินกู้ จำนวน 66.494 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2) เงินสมทบจากรัฐบาล
ภายใต้เงื่อนไขเงินบาทสมทบ วงเงินบาทสมทบ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้รับจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2540 - 2546 เป็นเงินจำนวน 1,791.607ล้านบาท (ประมาณ 52.051 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
2. ได้มีการประชุมหารือเพื่อแนวทางชำระหนี้ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2545 ซึ่งผลจากการประชุมสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอใช้งบประมาณจากโครงการความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 57.190 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์แทนรายการที่จะโอนไปชำระหนี้ และได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับการจัดสรรเงินภายใต้หนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความช่วยเหลือทางการเงินแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 57.190 ล้านบาท
2.2 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๖ งบลงทุนรายการค่าครุภัณฑ์ เพื่อชำระหนี้ตามสัญญา รายการที่โอนเป็นรายการที่ได้รับงบประมาณจัดสรรจากโครงการความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อจัดซื้อแทนแล้ว ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่าการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว จะทำให้กรอบวงเงินกู้และกรอบวงเงินบาทสมทบต่างไปจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
2.3 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณประจำปี 2546เนื่องจากงบประมาณปี พ.ศ. 2540 - 2546 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้รับจัดสรรเงินบาทสมทบ คิดเป็นเงินประมาณ 52.051 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณในครั้งนี้ จำนวน 1.248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ภายในกรอบวงเงินบาทสมทบจำนวน 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่าการยกเลิกวงเงินกู้ จำนวน 13.506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยภาพรวมกรอบวงเงินรวมทั้งโครงการฯจะต้องลดลง ประกอบกับการขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 2546 จำนวน 54,034,440 บาท เพื่อไปสมทบโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงานทำให้สัดส่วนเงินกู้และเงินงบประมาณสมทบเปลี่ยนแปลง ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงิน และให้ความเห็นชอบในกรณีใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีไปชำระหนี้ส่วนเงินกู้ก่อน แล้วจึงขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
2.4 จากความเห็นสำนักงบประมาณในข้อ 2.3 ทำให้เหลือหนี้ผูกพันจำนวน 14สัญญา ซึ่งมีทั้งที่เป็นเงินสกุลไทยบาทและเงินสกุลต่างประเทศ คิดเป็นหนี้ที่ต้องชำระจำนวน 13,430,258.32 บาท และ 849,153 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1,184,909.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ
2.5 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้พิจารณาที่จะเจียดจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2547เพื่อนำมาชำระหนี้ผูกพัน 1.184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ปรากฏว่าจนถึง ณ วันที่ 28กุมภาพันธ์ 2547ไม่สามารถนำมาเจียดจ่ายชำระหนี้ได้จึงมีความจำเป็นต้องขอใช้จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-