คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนมิถุนายน 2547 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ (1-4 มิถุนายน 2547) โดยเปรียบเทียบกับสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคม 2547 (24-28 พฤษภาคม2547) ดังนี้
1. ภาวะราคาสินค้า
1.1 กรุงเทพมหานคร สถานการณ์สินค้าโดยภาพรวมอยู่ในภาวะปกติ ทั้งในด้านราคาและปริมาณ สำหรับสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวน่าสังเกตในสัปดาห์นี้ ได้แก่
หมวดอาหารสด/ผักและผลไม้
1) ผักสด หลายชนิดยังมีราคาสูงขึ้น แต่เริ่มชะลอตัวลงจากเดิม เนื่องจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากภาวะฝนตก โดยผักคะน้าราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 25-30 บาท เป็น 30-35 บาท ผักบุ้งจีนราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8-10 บาท เป็น 12-18 บาท และผักชีราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 9-13 บาท เป็น 10-18 บาท และราคามีแนวโน้มลดลงในสัปดาห์ต่อไป อันเป็นผลจากการกระจายสินค้าจากแหล่งผลิต รวมทั้งภาวะอากาศที่ดีขึ้น
2) ผลไม้ หลายชนิดราคาลดลง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เช่น มะนาว ราคาลดลงจากผลละ 2-2.50 บาท เป็นผลละ 1.50-2.50 บาท และส้มเขียวหวาน ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 22-25 บาท เป็น 20-22 บาท
3) สุกรชำแหละ และไก่สด ราคาลดลงเนื่องจากมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นมาก และภาวะการจำหน่ายชะลอตัว โดยสุกรชำแหละราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 90-100 บาท เป็น 90-95 บาท และไก่สด ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 48-52 บาท เป็น 48-50 บาท
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร
1) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปัจจัยการเกษตร ส่วนใหญ่ราคายังทรงตัว ยกเว้น เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมี ที่มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเม็ดพลาสติกราคาสูงขึ้น จากกิโลกรัมละ 37 บาท เป็น 37.50 บาท และปุ๋ยเคมีราคาสูงขึ้น จากกิโลกรัมละ 410-490 บาท เป็น 420-495 บาท
2) เหล็กและผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว เช่น เหล็กแผ่น และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ยกเว้น เหล็กเส้น และตะปู ที่มีราคาลดลง อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจกาต่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กเส้นราคาลดลงจากเส้นละ 100 บาท เป็น 96 บาท และตะปูลดลงจากลังละ 580 บาท เป็น 560 บาท
นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดมีราคาเคลื่อนไหวขึ้น-ลง เล็กน้อยตามภาวะการแข่งขันและการส่งเสริม การขายของห้างสรรพสินค้า เช่น นมผง นมข้นหวาน น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และแชมพู เป็นต้น
1.2 ภูมิภาค สถานการณ์สินค้าส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้น อาหารสัตว์ได้ปรับตัวสูงขึ้นในบางจังหวัด ตามราคาโรงงานที่ปรับสูงขึ้น เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2547
2. การตรวจสอบ
มีการตรวจสอบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 จำนวนทั้งสิ้น 14,081 ราย
2.1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,884 รายการ พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 18 ราย มาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 15,200 บาท
2.2 ภูมิภาค จำนวน 12,197 ราย พบผู้กระทำผิดไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า 13 ราย เครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 6,000 บาท และระหว่างดำเนินคดี 1 ราย
3. การดำเนินการดูแลผู้บริโภค
3.1 ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการป้องปรามการฉวยโอกาสจากการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สถานีบริการน้ำมันละเว้นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หากตรวจพบจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
3.2 ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้เข้มงวดกำกับดูแลสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ในความดูแลไม่ให้กักตุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการจำหน่ายและความเที่ยงตรงของมาตรวัด ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
3.3 ให้ร้านอาหารธงฟ้า ที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ทั้งใน กทม. และภูมิภาค จำหน่ายในราคาเท่าเดิม เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคและช่วยดึงราคาจำหน่ายในร้านอาหารทั่วไปไม่ให้ปรับสูงขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
1. ภาวะราคาสินค้า
1.1 กรุงเทพมหานคร สถานการณ์สินค้าโดยภาพรวมอยู่ในภาวะปกติ ทั้งในด้านราคาและปริมาณ สำหรับสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวน่าสังเกตในสัปดาห์นี้ ได้แก่
หมวดอาหารสด/ผักและผลไม้
1) ผักสด หลายชนิดยังมีราคาสูงขึ้น แต่เริ่มชะลอตัวลงจากเดิม เนื่องจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากภาวะฝนตก โดยผักคะน้าราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 25-30 บาท เป็น 30-35 บาท ผักบุ้งจีนราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8-10 บาท เป็น 12-18 บาท และผักชีราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 9-13 บาท เป็น 10-18 บาท และราคามีแนวโน้มลดลงในสัปดาห์ต่อไป อันเป็นผลจากการกระจายสินค้าจากแหล่งผลิต รวมทั้งภาวะอากาศที่ดีขึ้น
2) ผลไม้ หลายชนิดราคาลดลง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เช่น มะนาว ราคาลดลงจากผลละ 2-2.50 บาท เป็นผลละ 1.50-2.50 บาท และส้มเขียวหวาน ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 22-25 บาท เป็น 20-22 บาท
3) สุกรชำแหละ และไก่สด ราคาลดลงเนื่องจากมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นมาก และภาวะการจำหน่ายชะลอตัว โดยสุกรชำแหละราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 90-100 บาท เป็น 90-95 บาท และไก่สด ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 48-52 บาท เป็น 48-50 บาท
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร
1) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปัจจัยการเกษตร ส่วนใหญ่ราคายังทรงตัว ยกเว้น เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมี ที่มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเม็ดพลาสติกราคาสูงขึ้น จากกิโลกรัมละ 37 บาท เป็น 37.50 บาท และปุ๋ยเคมีราคาสูงขึ้น จากกิโลกรัมละ 410-490 บาท เป็น 420-495 บาท
2) เหล็กและผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว เช่น เหล็กแผ่น และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ยกเว้น เหล็กเส้น และตะปู ที่มีราคาลดลง อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจกาต่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กเส้นราคาลดลงจากเส้นละ 100 บาท เป็น 96 บาท และตะปูลดลงจากลังละ 580 บาท เป็น 560 บาท
นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดมีราคาเคลื่อนไหวขึ้น-ลง เล็กน้อยตามภาวะการแข่งขันและการส่งเสริม การขายของห้างสรรพสินค้า เช่น นมผง นมข้นหวาน น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และแชมพู เป็นต้น
1.2 ภูมิภาค สถานการณ์สินค้าส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้น อาหารสัตว์ได้ปรับตัวสูงขึ้นในบางจังหวัด ตามราคาโรงงานที่ปรับสูงขึ้น เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2547
2. การตรวจสอบ
มีการตรวจสอบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 จำนวนทั้งสิ้น 14,081 ราย
2.1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,884 รายการ พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 18 ราย มาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 15,200 บาท
2.2 ภูมิภาค จำนวน 12,197 ราย พบผู้กระทำผิดไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า 13 ราย เครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 6,000 บาท และระหว่างดำเนินคดี 1 ราย
3. การดำเนินการดูแลผู้บริโภค
3.1 ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการป้องปรามการฉวยโอกาสจากการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สถานีบริการน้ำมันละเว้นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หากตรวจพบจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
3.2 ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้เข้มงวดกำกับดูแลสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ในความดูแลไม่ให้กักตุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการจำหน่ายและความเที่ยงตรงของมาตรวัด ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
3.3 ให้ร้านอาหารธงฟ้า ที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ทั้งใน กทม. และภูมิภาค จำหน่ายในราคาเท่าเดิม เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคและช่วยดึงราคาจำหน่ายในร้านอาหารทั่วไปไม่ให้ปรับสูงขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-