เรื่อง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศของประเทศ
ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอดังนี้
1. เห็นชอบบทบาทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลัก (Hub Airport) รองรับเที่ยวบินแบบเต็มรูปแบบ (Full Service) และเที่ยวบินที่มีการเชื่อมต่อ (Connecting Flight) เพื่อส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคและท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานรองรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carriers : LCCs) และ/หรือเส้นทางการบินในประเทศและระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด (Point to Point) บนหลักการของความสมัครใจของสายการบินเพื่อเป็นการใช้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร และกรมสรรพากร) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ด่านตรวจพืช ด่านตรวจสัตว์น้ำและด่านกักกันสัตว์) กระทรวงคมนาคม (บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ด่านตรวจสัตว์ป่า) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสำนักอุตุนิยมวิทยาการบิน) กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) กระทรวงแรงงาน (กรมจัดหางาน) กระทรวงสาธารณสุข (ด่านควบคุมโรคติดต่อ และสำนักงานอาหารและยา) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สนับสนุนและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน เพื่อการรองรับสายการบินที่จะย้ายมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
คค. รายงานว่า
1. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เสนอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมกิจการการขนส่งทางอากาศของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองรองรับเที่ยวบินในประเทศแบบประจำของสายการบินนกแอร์และโอเรียนท์ไทย รวมถึงเที่ยวบินแบบไม่ประจำอื่น ๆ โดยในปี 2554 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 40,903 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 3.4 ล้านคน ในขณะที่ขีดความสามารถรองรับของท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ที่ 36.5 ล้านคนต่อปี และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในปี 2554 รองรับเที่ยวบิน 299,566 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 47.9 ล้านคน ในขณะที่ขีดความสามารถรองรับอยู่ที่ 45 ล้านคนต่อปี ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเกิดการแออัดคับคั่งของเที่ยวบินและผู้โดยสารในช่วงเวลาคับคั่ง เป็นผลให้ระดับการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดต่ำลง นอกจากนี้ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ปีจึงจะแล้วเสร็จ หากการใช้งานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นดังเช่นในปัจจุบัน แม้เมื่อโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 แล้วเสร็จ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงเกิดความแออัดต่อไป
2. โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมกิจการการขนส่งทางอากาศของประเทศ มีวัตถุประสงค์หลักดังนี้
2.1 เพื่อบรรเทาความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2.2 เพื่อเป็นท่าอากาศยานสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ
2.3 เพื่อเพิ่มรายได้ ลดการขาดทุนสะสม และแก้ปัญหาการด้อยค่าทรัพย์สินของท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จึงได้พิจารณาแล้วเห็นควร กำหนดบทบาทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลัก (Hub Airport) รองรับเที่ยวบินแบบเต็มรูปแบบ (Full Service) และเที่ยวบินที่มีการเชื่อมต่อ (Connecting Flight) เพื่อส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค และท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานรองรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carriers : LCCs) และ/หรือเส้นทางการบินในประเทศและระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด (Point to Point) บนหลักการของความสมัครใจของสายการบิน เพื่อเป็นการใช้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ท่าอากาศยานดอนเมืองจะบรรเทาความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ตลอดจนเป็นการยืดอายุใช้งานในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเป็นการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นการเพิ่มรายได้ ลดการขาดทุนสะสม และแก้ปัญหาการด้อยค่าทรัพย์สิน ซึ่งส่งผลให้ลดภาระค่าใช้จ่ายของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในระยะยาว
4. การใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการพัฒนาปรับปรุงเพื่อเปิดให้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นการใช้งบประมาณของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด
5. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องและสายการบินกำหนดความพร้อมในการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองวันที่ 1 กรกฎาคม 2555
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มิถุนายน 2555--จบ--