คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความคืบหน้าการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
นโยบายเพิ่มรายได้
1. ร.ส.พ. ได้ประมูลขายรถยนต์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ รวม 2 ครั้ง จำนวน 369 คัน สามารถสร้างรายได้เป็นเงิน 51 ล้านบาท
2. เร่งปรับปรุงการบริการพร้อมกับการบริการพร้อมกับการเพิ่มรายได้ โดยเจรจากับลูกค้าที่มีอยู่เดิมและลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ดังนี้
- ร.ส.พ. เจรจากับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอเป็นผู้ดำเนินการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และได้รับความไว้วางใจให้ ร.ส.พ. ขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นจำนวน 15 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในขั้นดำเนินการ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ให้ความไว้วางใจ ร.ส.พ. ในการทำหน้าที่ขนส่งธนบัตรซึ่งจากเดิมใช้บริการในการขนส่งเดือนละ 4 คัน ปัจจุบันเพิ่มเป็นเดือนละ 8-12 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 คันในเดือนมิถุนายน
- กรมธนารักษ์ ได้ใช้บริการของ ร.ส.พ. ในการขนส่งเหรียญกษาปณ์จากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้น
- การเจรจากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าไปรับสินค้าจากท่าเรือเชียงแสน ซึ่งเป็นสินค้าที่มาจากทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนขนส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบัง
- บริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด ได้ให้ความช่วยเหลือ ร.ส.พ. ในการให้บริการขนส่งแบบ Roll on, Roll off (Ro - Ro) ที่ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือสงขลา ซึ่งเป็นการให้บริการแบบเชื่อมโยง (Multimodal) ระหว่างรถและเรือ คาดว่าจะใช้รถในการให้บริการในช่วงแรกประมาณ 20 คัน
- ร.ส.พ. ได้ขยายการให้บริการกับภาคเอกชน โดยกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นงานด้านลอจิสติกส์ ได้แก่ การกระจายเอกสารแบบฟอร์มให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) การขนส่งอะไหล่ให้กับบริษัทไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด บริษัทไทยฮีโน่มอเตอร์เซลส์ จำกัด และการกระจายสินค้าให้กับบริษัทรีเจนซี่ บรั่นดีไทย จำกัด เป็นต้น
นอกจากนี้ได้ปรับระบบการให้บริการที่ต้องให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกรวดเร็ว แก่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่เป็นลูกค้าเดิมของ ร.ส.พ. ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงงานยาสูบ หน่วยงานราชการทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมถึงการกลับมาใช้บริการขององค์การค้าของคุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและยินดีที่จะใช้บริการของ ร.ส.พ. ต่อไป
นโยบายลดค่าใช้จ่าย
1. การประนอมหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้ ร.ส.พ. ได้เจรจากับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเดิม ร.ส.พ. ต้องรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 14.75 บาท/ปี ขณะนี้ได้เจรจาเหลือร้อยละ 3.75 บาท/ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนชำระลดลงประมาณ 1.9 แสนบาท/เดือน
2. การเจรจากับบริษัทเจ้าของรถยนต์เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในส่วนของค่าเช่ารถค้างจ่ายรวมดอกเบี้ยมีมูลค่า 624.29 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะลดหนี้ไปประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งหากการเจรจาประสบผลสำเร็จจะมีหนี้เหลือเพียง 224 ล้านบาท
3. มาตรการประหยัดค่าล่วงเวลา โดยสลับเวลาในการเข้าทำงานของพนักงาน ทำให้ประหยัดค่าล่วงเวลาได้กว่า 200,000 บาท/เดือน
นโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
1. ร.ส.พ. ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ ด้านการรับส่งสินค้า บัญชีและการเงิน และบริหารจัดการรถบรรทุก (Haulage Management) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกรอบการดำเนินงาน (TOR) และคัดเลือกบริษัทเอกชนเพื่อมาลงทุนในด้านเทคโนโลยีและรับเป็นผู้ดำเนินการ
2. ทำการสำรวจรถที่มีอยู่ทั้งหมด 871 คัน เพื่อจัดทำแผนซ่อมบำรุง และปรับสภาพรถยนต์ให้ใช้งานได้ดี ขณะนี้อยู่ในขั้นการจัดทำแผน
3. จัดตั้งศูนย์ควบคุมและตรวจเช็ครถทั่วประเทศ รวม 16 จุด เพื่อควบคุมด้านเวลา ระยะทาง และการใช้รถให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยดำเนินการแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม
4. การปรับโครงสร้างองค์กร ได้ทำการทดลองใช้โครงสร้างใหม่ โดยปรับเปลี่ยนลักษณะการแบ่งสายงาน ซึ่งเดิมแบ่งโดย "หน้าที่" (Function) ของหน่วยงาน เปลี่ยนมาเป็นแบ่งตาม "เขตพื้นที่" (Regional) ซึ่งจะทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะมีการรวมงานต่าง ๆ เข้าไว้ในฝ่ายลอจิสติกส์ภาค ในลักษณะ Profit Center ซึ่งจะมีการกระจายอำนาจไปสู่ฝ่ายที่กำกับดูแลแต่ละภาคมากขึ้น การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม
ปัจจุบัน ร.ส.พ. มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จากผลประกอบการในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2547 ร.ส.พ. มีรายได้จากการดำเนินงานขนส่งสินค้า รวม 206.070 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.39 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมรายได้อื่น ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-
นโยบายเพิ่มรายได้
1. ร.ส.พ. ได้ประมูลขายรถยนต์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ รวม 2 ครั้ง จำนวน 369 คัน สามารถสร้างรายได้เป็นเงิน 51 ล้านบาท
2. เร่งปรับปรุงการบริการพร้อมกับการบริการพร้อมกับการเพิ่มรายได้ โดยเจรจากับลูกค้าที่มีอยู่เดิมและลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ดังนี้
- ร.ส.พ. เจรจากับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอเป็นผู้ดำเนินการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และได้รับความไว้วางใจให้ ร.ส.พ. ขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นจำนวน 15 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในขั้นดำเนินการ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ให้ความไว้วางใจ ร.ส.พ. ในการทำหน้าที่ขนส่งธนบัตรซึ่งจากเดิมใช้บริการในการขนส่งเดือนละ 4 คัน ปัจจุบันเพิ่มเป็นเดือนละ 8-12 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 คันในเดือนมิถุนายน
- กรมธนารักษ์ ได้ใช้บริการของ ร.ส.พ. ในการขนส่งเหรียญกษาปณ์จากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้น
- การเจรจากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าไปรับสินค้าจากท่าเรือเชียงแสน ซึ่งเป็นสินค้าที่มาจากทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนขนส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบัง
- บริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด ได้ให้ความช่วยเหลือ ร.ส.พ. ในการให้บริการขนส่งแบบ Roll on, Roll off (Ro - Ro) ที่ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือสงขลา ซึ่งเป็นการให้บริการแบบเชื่อมโยง (Multimodal) ระหว่างรถและเรือ คาดว่าจะใช้รถในการให้บริการในช่วงแรกประมาณ 20 คัน
- ร.ส.พ. ได้ขยายการให้บริการกับภาคเอกชน โดยกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นงานด้านลอจิสติกส์ ได้แก่ การกระจายเอกสารแบบฟอร์มให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) การขนส่งอะไหล่ให้กับบริษัทไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด บริษัทไทยฮีโน่มอเตอร์เซลส์ จำกัด และการกระจายสินค้าให้กับบริษัทรีเจนซี่ บรั่นดีไทย จำกัด เป็นต้น
นอกจากนี้ได้ปรับระบบการให้บริการที่ต้องให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกรวดเร็ว แก่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่เป็นลูกค้าเดิมของ ร.ส.พ. ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงงานยาสูบ หน่วยงานราชการทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมถึงการกลับมาใช้บริการขององค์การค้าของคุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและยินดีที่จะใช้บริการของ ร.ส.พ. ต่อไป
นโยบายลดค่าใช้จ่าย
1. การประนอมหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้ ร.ส.พ. ได้เจรจากับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเดิม ร.ส.พ. ต้องรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 14.75 บาท/ปี ขณะนี้ได้เจรจาเหลือร้อยละ 3.75 บาท/ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนชำระลดลงประมาณ 1.9 แสนบาท/เดือน
2. การเจรจากับบริษัทเจ้าของรถยนต์เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในส่วนของค่าเช่ารถค้างจ่ายรวมดอกเบี้ยมีมูลค่า 624.29 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะลดหนี้ไปประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งหากการเจรจาประสบผลสำเร็จจะมีหนี้เหลือเพียง 224 ล้านบาท
3. มาตรการประหยัดค่าล่วงเวลา โดยสลับเวลาในการเข้าทำงานของพนักงาน ทำให้ประหยัดค่าล่วงเวลาได้กว่า 200,000 บาท/เดือน
นโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
1. ร.ส.พ. ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ ด้านการรับส่งสินค้า บัญชีและการเงิน และบริหารจัดการรถบรรทุก (Haulage Management) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกรอบการดำเนินงาน (TOR) และคัดเลือกบริษัทเอกชนเพื่อมาลงทุนในด้านเทคโนโลยีและรับเป็นผู้ดำเนินการ
2. ทำการสำรวจรถที่มีอยู่ทั้งหมด 871 คัน เพื่อจัดทำแผนซ่อมบำรุง และปรับสภาพรถยนต์ให้ใช้งานได้ดี ขณะนี้อยู่ในขั้นการจัดทำแผน
3. จัดตั้งศูนย์ควบคุมและตรวจเช็ครถทั่วประเทศ รวม 16 จุด เพื่อควบคุมด้านเวลา ระยะทาง และการใช้รถให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยดำเนินการแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม
4. การปรับโครงสร้างองค์กร ได้ทำการทดลองใช้โครงสร้างใหม่ โดยปรับเปลี่ยนลักษณะการแบ่งสายงาน ซึ่งเดิมแบ่งโดย "หน้าที่" (Function) ของหน่วยงาน เปลี่ยนมาเป็นแบ่งตาม "เขตพื้นที่" (Regional) ซึ่งจะทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะมีการรวมงานต่าง ๆ เข้าไว้ในฝ่ายลอจิสติกส์ภาค ในลักษณะ Profit Center ซึ่งจะมีการกระจายอำนาจไปสู่ฝ่ายที่กำกับดูแลแต่ละภาคมากขึ้น การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม
ปัจจุบัน ร.ส.พ. มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จากผลประกอบการในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2547 ร.ส.พ. มีรายได้จากการดำเนินงานขนส่งสินค้า รวม 206.070 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.39 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมรายได้อื่น ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มิถุนายน 2547--จบ--
-กภ-