คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. และร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนแต่งตั้ง พ.ศ. 2523 พ.ศ. …. แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. และร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนแต่งตั้ง พ.ศ. 2523 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รวมร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเดียวกัน และให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7(ฝ่ายกฎหมายฯ) ไปพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
2. ให้ความเห็นชอบ
2.1 ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการได้รับเงินสมนาคุณรายเดือนแทนการได้รับเบี้ยประชุมรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามรายชื่อแนบ และให้ได้รับเบี้ยประชุมรายเดือนตามร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. แทน
2.2 อัตราวงเงินเบี้ยประชุมขั้นสูงและขั้นต่ำ ดังนี้ (1) เบี้ยประชุมรายเดือน อัตราเดือนละ 3,000 บาท ถึง 20,000 บาท (2) เบี้ยประชุมรายครั้ง อัตราครั้งละ 500 บาท ถึง 1,500 บาท
2.3 กำชับให้ส่วนราชการต่างๆ พิจารณาทบทวนถึงความจำเป็นในการแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการในความรับผิดชอบ และจัดให้มีวาระการประชุมเฉพาะคราวที่มีความจำเป็นเท่านั้นเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ
3. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่ว่าพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 กำหนดให้กรรมการกฤษฎีกาได้รับค่าตอบแทนตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา และกำหนดให้คณะกรรมการพัฒนากฎหมายได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้น เมื่อมีการพิจารณาปรับปรุงค่าเบี้ยประชุมกรรมการตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้ ควรได้มีการพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนกรรมการกฤษฎีกาให้สอดคล้องในคราวเดียวกันด้วย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยด่วน
ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเบี้ยประชุม เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้กรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งและกรรมการที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้รับเบี้ยประชุม ทำให้การแต่งตั้งคณะกรรมการต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทุกเรื่อง ซึ่งมีเป็นจำนวนมากและอาจล่าช้าไม่ทันสภาวการณ์ ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทบัญญัติที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องเบี้ยประชุมเช่นเดียวกัน สมควรที่จะรวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. และร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนแต่งตั้ง พ.ศ. 2523 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รวมร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเดียวกัน และให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7(ฝ่ายกฎหมายฯ) ไปพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
2. ให้ความเห็นชอบ
2.1 ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการได้รับเงินสมนาคุณรายเดือนแทนการได้รับเบี้ยประชุมรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามรายชื่อแนบ และให้ได้รับเบี้ยประชุมรายเดือนตามร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. แทน
2.2 อัตราวงเงินเบี้ยประชุมขั้นสูงและขั้นต่ำ ดังนี้ (1) เบี้ยประชุมรายเดือน อัตราเดือนละ 3,000 บาท ถึง 20,000 บาท (2) เบี้ยประชุมรายครั้ง อัตราครั้งละ 500 บาท ถึง 1,500 บาท
2.3 กำชับให้ส่วนราชการต่างๆ พิจารณาทบทวนถึงความจำเป็นในการแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการในความรับผิดชอบ และจัดให้มีวาระการประชุมเฉพาะคราวที่มีความจำเป็นเท่านั้นเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ
3. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่ว่าพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 กำหนดให้กรรมการกฤษฎีกาได้รับค่าตอบแทนตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา และกำหนดให้คณะกรรมการพัฒนากฎหมายได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้น เมื่อมีการพิจารณาปรับปรุงค่าเบี้ยประชุมกรรมการตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้ ควรได้มีการพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนกรรมการกฤษฎีกาให้สอดคล้องในคราวเดียวกันด้วย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยด่วน
ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. …. มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเบี้ยประชุม เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้กรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งและกรรมการที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้รับเบี้ยประชุม ทำให้การแต่งตั้งคณะกรรมการต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทุกเรื่อง ซึ่งมีเป็นจำนวนมากและอาจล่าช้าไม่ทันสภาวการณ์ ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทบัญญัติที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องเบี้ยประชุมเช่นเดียวกัน สมควรที่จะรวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-