การรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 11, 2012 13:43 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ดังนี้

1. การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น

กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดจัดงาน Outlet เพื่อประชาชน ระหว่างวันที่ 6 — 8 กรกฎาคม 2555 ณ บริเวณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจับจ่ายสินค้าในราคาถูกและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังประสบภาวะสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง โดยในงานมีการ ออกร้านขายสินค้าราคาประหยัดกว่า 300 ร้านค้า ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ระดมสินค้าอุปโภคบริโภคราคาโรงงานมาจำหน่าย

2. การดำเนินการฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม 7 แห่ง ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ขณะนี้มีโรงงานประกอบกิจการแล้ว 662 ราย คิดเป็นร้อยละ 78.90 ของโรงงานทั้งหมด 839 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555)

3. การดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน สถานประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดดำเนินการแล้ว 7,783 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.61 ของสถานประกอบการทั้งหมด 7,783 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555)

4. โครงการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555)

4.1 โครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ จำนวน 47.4 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์สำหรับเป็นพื้นที่สำนักงานและโรงงานชั่วคราวสำหรับสถานประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่ประสบอุทกภัย เพื่อการผลิต จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องจักรและซ่อมแซมเครื่องจักร และมีสถานที่ดำเนินการตั้งอยู่ ณ สำนักงานอำนวยการศูนย์พักพิง บริเวณตลาดโรงเกลือประตูน้ำพระอินทร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 50 ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณ คิดเป็นร้อยละ 17.93 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้วรวม 134 ราย จากเป้าหมาย 100 ราย ประกอบด้วย สถานประกอบการอุตสาหกรรม 71 ราย และวิสาหกิจชุมชน 63 ราย มีพื้นที่การใช้พื้นที่ทั้งหมดแล้ว 21,640 ตารางเมตร เริ่มมีการทยอยออก จำนวน 29 ราย เนื่องจากสามารถฟื้นฟูและช่วยเหลือตนเองได้แล้ว

4.2 โครงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกากอุตสาหกรรมในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ จำนวน 22 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งในและนอกนิคม โดยส่งทีมวิศวกรออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ เพื่อดูแล ตรวจสอบ และแนะนำเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งชนิดอันตรายและไม่อันตรายและแก้ไขการปนเปื้อนของสารพิษ สารเคมี เพื่อให้สถานประกอบการฟื้นคืนสู่การผลิตดังเดิม และเกิดความปลอดภัยต่อชุมชนและประชาชนบริเวณโดยรอบโรงงาน โดยมีผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 85 ผลการใช้จ่ายเงินคิดเป็นร้อยละ 27.79 ขณะนี้มีสถานประกอบการได้รับการตรวจสอบแล้ว จำนวน 2,060 ราย คิดเป็นร้อยละ 103 ของโรงงานเป้าหมายทั้งหมด (2,000 โรงงาน)

4.3 โครงการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน และสารปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรมในสถานประกอบการทั้งในและนอกนิคม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ดินและสารปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรม ทั้งในและนอกนิคม ในพื้นที่ 14 จังหวัด ที่ประสบอุทกภัย โดยมีผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 80 ผลการใช้จ่ายเงินคิดเป็นร้อยละ 23.16 ขณะนี้ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลแล้ว จำนวน 1,323 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 102 ของตัวอย่างทั้งหมด (1,302 ตัวอย่าง)

4.4 โครงการศูนย์สารพัดช่างเพื่อการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 51.02 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจและจัดทำแผนงานโครงการฯ

4.5 โครงการฟื้นฟูซ่อมแซมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 1.7697 ล้านบาท ผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 70 ผลการใช้จ่ายเงินคิดเป็นร้อยละ 33.62 โดยอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงอาคารสถานที่

4.6 โครงการบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ประสบอุทกภัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 17.3768 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดจ้าง เพื่อดำเนินการตรวจสอบและวิเคราะห์กากของเสีย การขนส่งและกำจัดกากของเสียในแต่ละประเภท

4.7 โครงการฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 411.6177 ล้านบาท ผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 6 ผลการใช้จ่ายเงินคิดเป็นร้อยละ 8.71 เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยทำการประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศผ่านสื่อต่าง ๆ 7 ครั้ง และได้ดำเนินการจัดประชุมสัมมนาการลงทุนในต่างประเทศ 3 ครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน

4.8 โครงการคลินิกอุตสาหกรรมเพื่อการฟื้นฟูสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับงบประมาณ 148 ล้านบาท ผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 45 ผลการใช้จ่ายเงินคิดเป็นร้อยละ 28.09 โดยได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูสถานประกอบการ โดยเข้าวินิจฉัย ทำการสำรวจ วิเคราะห์สถานประกอบการให้ทราบถึงปัญหา มูลค่าของความเสียหายที่ต้องหยุดประกอบกิจการ จำนวน 802 ราย และเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเชิงลึก การฟื้นฟูกระบวนการธุรกิจ (Business Process) จำนวน 245 ราย

5. ความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน นิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาสหกรรมและสวนอุตสาหกรรม (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555)

5.1 นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 7.21 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 339.046 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 226.03 ล้านบาท ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยมีบริษัท สหรัตนนคร จำกัด เป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการฯ ใหม่

5.2 เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 75 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 2,145.455 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 1,430.303 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 และกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเขื่อน คิดเป็นร้อยละ 51

5.3 นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 11.03 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 492.432 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 328.288 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 และกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเขื่อน คิดเป็นร้อยละ 59.95

5.4 นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 9.89 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 474.016 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 316.011 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 และกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเขื่อน คิดเป็นร้อยละ 40.85

5.5 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 1,058.933 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 705.955 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 และกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเขื่อน คิดเป็นร้อยละ 53.45

5.6 สวนอุตสาหกรรมบางกะดี การก่อสร้างเขื่อนมีความยาวโดยประมาณ 9.12 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน 345.16 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 230.107 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2555 และกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ความก้าวหน้าในการก่อสร้างเขื่อน คิดเป็นร้อยละ 57.70

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กรกฎาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ