คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องระบบการเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย (หอกระจายข่าว) ตามที่คณะกรรมการศึกษาระบบเตือนภัยล่วงหน้าเสนอ แล้วมีมติอนุมัติในหลักการค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งระบบการเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย (หอกระจายข่าว) บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน (6 จังหวัดภาคใต้) จากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในปีงบประมาณ 2548 ในวงเงิน 138.78 ล้านบาท และมอบหมายให้กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการเบิกจ่ายงบประมาณ พร้อมทั้งประสานรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการศึกษาระบบเตือนภัยล่วงหน้าประสานกับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการติดตั้งระบบเตือนภัยดังกล่าวสอดคล้องกับงานที่จังหวัดบางจังหวัดได้ดำเนินการไว้แล้วด้วย
คณะกรรมการศึกษาระบบเตือนภัยล่วงหน้ารายงานว่า คณะอนุกรรมการจัดตั้งระบบการเตือนภัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย (หอกระจายข่าว) ได้มีมติเห็นควรให้ดำเนินการติดตั้งระบบการเตือนภัยในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเล อันดามัน (6 จังหวัดภาคใต้) ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติก่อนเป็นลำดับแรก โดยคำนึงถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยพิบัติจากธรรมชาติและมีนักท่องเที่ยว/ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมีสาระสำคัญของระบบการเตือนภัยล่วงหน้า พอสรุปได้ดังนี้
1. สถานที่ตั้ง จะมีสถานีควบคุมและส่งข้อมูลซึ่งตั้งอยู่ ณ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (อาคารศูนย์สื่อสารดาวเทียมในประเทศ) ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยมีระบบเชื่อมโยงรับส่งข้อมูลการเตือนภัยกับหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบข้อมูล และมีหอกระจายข่าวตั้งอยู่ใน 6 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดพังงา จำนวน 16 แห่ง, จังหวัดภูเก็ต จำนวน 4 แห่ง, จังหวัดกระบี่ จำนวน 12 แห่ง, จังหวัดตรัง จำนวน 11 แห่ง, จังหวัดสตูล จำนวน 14 แห่ง, จังหวัดระนอง จำนวน 5 แห่ง รวม 62 แห่ง
2. ระบบกระจายเสียง ประกอบด้วย ลำโพงและ/หรือไซเรน และเครื่องขยายเสียงติดตั้งที่หอกระจายข่าวโดยในการทำงานลำโพงและหรือไซเรนจะรับคำสั่งจากศูนย์ควบคุมที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ให้แจ้งเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ และเตือนภัยแก่ประชาชนในลักษณะของเสียงไซเรนและหรือเสียงเตือนภัยเป็นคำพูด 5 ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น) ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของภัยพิบัติที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบจะบันทึกไว้
3. ระบบสื่อสารที่ใช้เชื่อมโยงระหว่างหอกระจายข่าวไปยังศูนย์ควบคุมที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเป็นระบบดาวเทียม Inmarsat หรือระบบดาวเทียมอื่นและต้องสามารถใช้งานได้ทุกสภาวะอากาศ
4. ระยะเวลาส่งของและการรับประกัน มีระยะเวลาส่งของติดตั้งสำหรับพร้อมทำการตรวจรับภายใน 180 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา และมีระยะเวลารับประกันเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ได้มีการตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--
คณะกรรมการศึกษาระบบเตือนภัยล่วงหน้ารายงานว่า คณะอนุกรรมการจัดตั้งระบบการเตือนภัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย (หอกระจายข่าว) ได้มีมติเห็นควรให้ดำเนินการติดตั้งระบบการเตือนภัยในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเล อันดามัน (6 จังหวัดภาคใต้) ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติก่อนเป็นลำดับแรก โดยคำนึงถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยพิบัติจากธรรมชาติและมีนักท่องเที่ยว/ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมีสาระสำคัญของระบบการเตือนภัยล่วงหน้า พอสรุปได้ดังนี้
1. สถานที่ตั้ง จะมีสถานีควบคุมและส่งข้อมูลซึ่งตั้งอยู่ ณ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (อาคารศูนย์สื่อสารดาวเทียมในประเทศ) ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยมีระบบเชื่อมโยงรับส่งข้อมูลการเตือนภัยกับหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบข้อมูล และมีหอกระจายข่าวตั้งอยู่ใน 6 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดพังงา จำนวน 16 แห่ง, จังหวัดภูเก็ต จำนวน 4 แห่ง, จังหวัดกระบี่ จำนวน 12 แห่ง, จังหวัดตรัง จำนวน 11 แห่ง, จังหวัดสตูล จำนวน 14 แห่ง, จังหวัดระนอง จำนวน 5 แห่ง รวม 62 แห่ง
2. ระบบกระจายเสียง ประกอบด้วย ลำโพงและ/หรือไซเรน และเครื่องขยายเสียงติดตั้งที่หอกระจายข่าวโดยในการทำงานลำโพงและหรือไซเรนจะรับคำสั่งจากศูนย์ควบคุมที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ให้แจ้งเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ และเตือนภัยแก่ประชาชนในลักษณะของเสียงไซเรนและหรือเสียงเตือนภัยเป็นคำพูด 5 ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น) ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของภัยพิบัติที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบจะบันทึกไว้
3. ระบบสื่อสารที่ใช้เชื่อมโยงระหว่างหอกระจายข่าวไปยังศูนย์ควบคุมที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเป็นระบบดาวเทียม Inmarsat หรือระบบดาวเทียมอื่นและต้องสามารถใช้งานได้ทุกสภาวะอากาศ
4. ระยะเวลาส่งของและการรับประกัน มีระยะเวลาส่งของติดตั้งสำหรับพร้อมทำการตรวจรับภายใน 180 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา และมีระยะเวลารับประกันเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ได้มีการตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--