เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. ….
(มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังรายงานว่า เพื่อส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนกองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2530 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้เอกชนผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนฯ สำหรับเงินหรือทรัพย์สินเท่าที่ได้บริจาคให้แก่กองทุนฯ ตามเงื่อนไขเช่นเดียวกับกรณีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่องค์การสถานสาธารณกุศล ซึ่งจะมีผลต่อการสูญเสียรายได้ทางภาษีเล็กน้อย แต่จะมีส่วนสนับสนุนงานด้านการจัดสวัสดิการของภาครัฐอันจะเป็นการช่วยลดการพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐได้
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ) เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการฯ ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเท่าจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคลักษณะอื่นแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนดังกล่าวนั้น
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินเท่าที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายการกุศลสาธารณะต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายการกุศลสาธารณะ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
(มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังรายงานว่า เพื่อส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนกองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2530 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้เอกชนผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนฯ สำหรับเงินหรือทรัพย์สินเท่าที่ได้บริจาคให้แก่กองทุนฯ ตามเงื่อนไขเช่นเดียวกับกรณีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่องค์การสถานสาธารณกุศล ซึ่งจะมีผลต่อการสูญเสียรายได้ทางภาษีเล็กน้อย แต่จะมีส่วนสนับสนุนงานด้านการจัดสวัสดิการของภาครัฐอันจะเป็นการช่วยลดการพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐได้
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ) เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการฯ ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเท่าจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคลักษณะอื่นแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนดังกล่าวนั้น
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินเท่าที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายการกุศลสาธารณะต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายการกุศลสาธารณะ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-