คณะรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินการการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ในการประชุมแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2547 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการและเห็นชอบให้ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
เรื่องที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ดำเนินการ
1. ให้ใช้นโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยให้ดำเนินการ 3 ขั้น คือ
1.1 หยุดยั้งการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าโดยทันที และทำอย่างต่อเนื่อง
1.2 จัดระบบการให้สิทธิ์แก่ราษฎรยากจนอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
1.3 เร่งรัดการปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนธรรมชาติ
2. ให้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินและเอกสารสิทธิ์ ซึ่งแต่เดิมมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ และมีหลักปฏิบัติที่แตกต่างกัน โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบเรื่องแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use Plan) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบทางด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. เห็นชอบให้กองบังคับการตำรวจป่าไม้ ทำเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พิจารณามอบอำนาจให้ตำรวจป่าไม้มีอำนาจในการทำสำนวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้ที่เป็นคดีสำคัญได้ทั่วราชอาณาจักร
4. ให้กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจกับกรมการปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการควบคุมการสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความเข้าใจ มีความชัดเจนและปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน สืบเนื่องจากหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0207/ว 981 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2532
เรื่องที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินการ
1. การแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญสมควรพิจารณาให้เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เพราะผลกระทบจากการบุกรุกทำลายป่าอาจนำมาซึ่งความหายนะของสภาพแวดล้อมของประเทศและยังก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมอีกด้วย
2. ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธาน รวมทั้งให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับการดำเนินงาน โดยมีกองบังคับการตำรวจป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับคำสั่งขึ้นตรงทางยุทธการ และให้สามารถขอรับการสนับสนุนจากทุกกองทัพได้อีกด้วย
3. ให้ใช้พื้นที่ป่าไม้ เป็น Balance Scorecard ในการประเมินและจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ และผู้ว่าราชการจังหวัด
4. ให้นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการสำรวจจากระยะไกล เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และอื่น ๆ มาใช้ในการติดตามประเมินสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อย่างต่อเนื่องในลักษณะ Real time และ Intensive
5. เมื่อพบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าให้ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนเบื้องต้นหากเป็นราษฎรที่ยากจนให้พิจารณาโดยยึดหลักนิติธรรม และหากเป็นการบุกรุกโดยนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และให้จัดระบบการเฝ้าระวังดูแลและปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกโดยทันที
6. ให้กำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในกรณีที่จะมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้เป็นแปลงใหญ่ โดยจะต้องละเว้นการใช้พื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์และพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และก่อนการอนุญาตจะต้องได้รับการตรวจสอบจริง ๆ ในพื้นที่ก่อนเป็นรายแปลง รวมทั้ง การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย
7. ให้หน่วยราชการที่ได้รับอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ดำเนินการตามเงื่อนไขซึ่งกำหนดให้รักษาพื้นที่ป่าไม้และปลูกป่า 20% ของพื้นที่โดยเคร่งครัด
8. ให้พิจารณาทบทวน ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี กฎ/ระเบียบที่เป็นข้อจำกัดในการป้องกันรักษาป่าหรือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่ามากยิ่งขึ้น
9. เพื่อให้การปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ป่าไม้มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนทางด้าน Logistics เช่น เฮลิคอปเตอร์และยานพาหนะอื่น รวมทั้งให้สามารถขอกำลังจากทุกกองทัพเข้าช่วยปฏิบัติงานได้
10. ควรทบทวนนโยบายการเกษตรในพื้นที่สูง โดยเฉพาะการทำการเกษตรที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การเกิดมลภาวะจากการใช้ยาฆ่าแมลง และการทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขา เป็นต้น
11. ให้เร่งรัดจัดทำแนวเขตพื้นท่ป่าไม้ให้ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
2. การดำเนินงานที่ผ่านมา
2.1 นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 126/2547 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 เรื่อง จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (คอป.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นรองประธาน และรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการและเลขานุการ
2.2 คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (คอป.) ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2547 มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจังหวัด เร่งรัดและเข้มงวดในการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยทันที และกำหนดให้มีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและกำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าไม้ที่ต้องรับผิดชอบ รวมทั้ง ให้รายงานผลอย่างต่อเนื่อง
2.3 นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 144/2547 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับชาติและระดับจังหวัด คือ (1) ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (ศปท.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากร- ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ และ (2) ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับจังหวัด (ศปท.จ.) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อำนวยการศูนย์
2.4 กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ มท 0211.5/ว 1775 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งผลการประชุมรับมอบนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2547 โดยกำหนดมาตรการให้จังหวัดพิจารณาดำเนินการในการยุติการบุกรุกทำลายป่า การเฝ้าระวังและปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ถูกบุกรุก การควบคุมพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ การส่งเสริมการปลูกป่า การส่งเสริมพลังงานทดแทน การใช้เทคโนโลยีสำรวจระยะไกล การรักษาพื้นที่และปลูกป่า ร้อยละ 20 ของหน่วยราชการที่ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ และการประชา-สัมพันธ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. ในการประชุมแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2547 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการและเห็นชอบให้ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
เรื่องที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ดำเนินการ
1. ให้ใช้นโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยให้ดำเนินการ 3 ขั้น คือ
1.1 หยุดยั้งการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าโดยทันที และทำอย่างต่อเนื่อง
1.2 จัดระบบการให้สิทธิ์แก่ราษฎรยากจนอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
1.3 เร่งรัดการปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนธรรมชาติ
2. ให้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินและเอกสารสิทธิ์ ซึ่งแต่เดิมมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ และมีหลักปฏิบัติที่แตกต่างกัน โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบเรื่องแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use Plan) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบทางด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. เห็นชอบให้กองบังคับการตำรวจป่าไม้ ทำเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พิจารณามอบอำนาจให้ตำรวจป่าไม้มีอำนาจในการทำสำนวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้ที่เป็นคดีสำคัญได้ทั่วราชอาณาจักร
4. ให้กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจกับกรมการปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการควบคุมการสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความเข้าใจ มีความชัดเจนและปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน สืบเนื่องจากหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0207/ว 981 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2532
เรื่องที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินการ
1. การแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญสมควรพิจารณาให้เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เพราะผลกระทบจากการบุกรุกทำลายป่าอาจนำมาซึ่งความหายนะของสภาพแวดล้อมของประเทศและยังก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมอีกด้วย
2. ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธาน รวมทั้งให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับการดำเนินงาน โดยมีกองบังคับการตำรวจป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับคำสั่งขึ้นตรงทางยุทธการ และให้สามารถขอรับการสนับสนุนจากทุกกองทัพได้อีกด้วย
3. ให้ใช้พื้นที่ป่าไม้ เป็น Balance Scorecard ในการประเมินและจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ และผู้ว่าราชการจังหวัด
4. ให้นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการสำรวจจากระยะไกล เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และอื่น ๆ มาใช้ในการติดตามประเมินสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อย่างต่อเนื่องในลักษณะ Real time และ Intensive
5. เมื่อพบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าให้ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนเบื้องต้นหากเป็นราษฎรที่ยากจนให้พิจารณาโดยยึดหลักนิติธรรม และหากเป็นการบุกรุกโดยนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และให้จัดระบบการเฝ้าระวังดูแลและปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกโดยทันที
6. ให้กำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในกรณีที่จะมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้เป็นแปลงใหญ่ โดยจะต้องละเว้นการใช้พื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์และพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และก่อนการอนุญาตจะต้องได้รับการตรวจสอบจริง ๆ ในพื้นที่ก่อนเป็นรายแปลง รวมทั้ง การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย
7. ให้หน่วยราชการที่ได้รับอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ดำเนินการตามเงื่อนไขซึ่งกำหนดให้รักษาพื้นที่ป่าไม้และปลูกป่า 20% ของพื้นที่โดยเคร่งครัด
8. ให้พิจารณาทบทวน ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี กฎ/ระเบียบที่เป็นข้อจำกัดในการป้องกันรักษาป่าหรือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่ามากยิ่งขึ้น
9. เพื่อให้การปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ป่าไม้มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนทางด้าน Logistics เช่น เฮลิคอปเตอร์และยานพาหนะอื่น รวมทั้งให้สามารถขอกำลังจากทุกกองทัพเข้าช่วยปฏิบัติงานได้
10. ควรทบทวนนโยบายการเกษตรในพื้นที่สูง โดยเฉพาะการทำการเกษตรที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การเกิดมลภาวะจากการใช้ยาฆ่าแมลง และการทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขา เป็นต้น
11. ให้เร่งรัดจัดทำแนวเขตพื้นท่ป่าไม้ให้ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
2. การดำเนินงานที่ผ่านมา
2.1 นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 126/2547 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 เรื่อง จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (คอป.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นรองประธาน และรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการและเลขานุการ
2.2 คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (คอป.) ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2547 มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจังหวัด เร่งรัดและเข้มงวดในการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยทันที และกำหนดให้มีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและกำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าไม้ที่ต้องรับผิดชอบ รวมทั้ง ให้รายงานผลอย่างต่อเนื่อง
2.3 นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 144/2547 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับชาติและระดับจังหวัด คือ (1) ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ (ศปท.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากร- ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ และ (2) ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับจังหวัด (ศปท.จ.) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อำนวยการศูนย์
2.4 กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ มท 0211.5/ว 1775 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งผลการประชุมรับมอบนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2547 โดยกำหนดมาตรการให้จังหวัดพิจารณาดำเนินการในการยุติการบุกรุกทำลายป่า การเฝ้าระวังและปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ถูกบุกรุก การควบคุมพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ การส่งเสริมการปลูกป่า การส่งเสริมพลังงานทดแทน การใช้เทคโนโลยีสำรวจระยะไกล การรักษาพื้นที่และปลูกป่า ร้อยละ 20 ของหน่วยราชการที่ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ และการประชา-สัมพันธ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-