คณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินงานตามแนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เป็นประธาน และคณะรัฐมนตรีมาประกอบการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. แต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธาน ผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และนครสวรรค์) ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และนักวิชาการจากส่วนกลางและท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 40 คน ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ รวม 3 ครั้ง
2. จัดตั้งสำนักงานชั่วคราว เพื่อประสานการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยเฉพาะ โดยในส่วนกลาง ตั้ง ณ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน ตั้งอยู่ ณ กลุ่มจัดการต้นน้ำ (ห้วยแก้ว) สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จังหวัดเชียงใหม่ และในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนล่าง ณ สำนักเลขานุการคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำปิงตอนล่าง สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 กรมทรัพยากรน้ำ จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง ทั้งในด้านการสนับสนุนและช่วยเหลือทางวิชาการและข้อมูลสารสนเทศ การส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกอบรม การดูงานและการจัดเวทีประชาชน ให้แก่ คณะกรรมการฯ ชุดต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งองค์กรชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
3. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและการจัดเวทีชาวบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชนและนักวิชาการท้องถิ่น ในระดับพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา 20 ลุ่มน้ำ ของพื้นที่ลุ่มน้ำปิง โดยทำการชี้แจงและสร้างความเข้าใจถึงความเป็นมาโครงการมติคณะรัฐมนตรี และแนวทางการดำเนินงานเพื่อการฟื้นฟูฯ ในลักษณะพหุภาคี ตลอดจนการรับฟังข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง สำหรับการดำเนินงานในระดับพื้นที่ในทุกระดับ
4. จัดทำกรอบแผนการดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยพหุภาคีมีส่วนร่วม ปีงบประมาณ 2547 (การดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชน) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิงแล้ว เสนอต่อสำนักงบประมาณเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2546 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท และสำนักงบประมาณเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2547 ได้แจ้งอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 47.529 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง
5. จัดประชุมประกาศเจตนารมณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีและภาคประชาชนในการฟื้นฟูทรัพยากร-ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2546 ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมประชุมจากภาคส่วนต่าง ๆ ประมาณ 2,500 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและประกาศให้พื้นที่ลุ่มน้ำปิงเป็นพื้นที่นำร่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคประชาชน ในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ซึ่งในการประชุมดังกล่าวตัวแทนประชาชนจากพื้นที่ลุ่มน้ำปิงทั้ง 20 ลุ่มน้ำสาขา ได้กล่าวแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันในการรักษาแม่น้ำปิงไว้เป็นสมบัติของอนุชนรุ่นหลังสืบไป
6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 2 ชุด ภายใต้คณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ได้แก่ คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนงานและงบประมาณในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง เพื่อบูรณาการแผนงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงเพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงานของภาคส่วนต่าง ๆ ตามมาตรการการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง
สำหรับการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป สรุปได้ดังนี้
1. ดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการของหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำปิง ภายใต้งบปกติประจำปีงบประมาณ 2547 ที่ได้กำหนดไว้แล้ว จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 70 โครงการ งบประมาณรวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการการฟื้นฟูฯ ในระยะสั้น และระยะกลาง เช่น การปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ การจัดระเบียบชุมชนและที่ดินทำกิน การก่อสร้างฝายต้นน้ำ การทำแนวกันไฟ การปลูกป่าเศรษฐกิจ การปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ การปรับปรุงฟื้นฟูระบบน้ำเสียรวมชุมชน การสำรวจเพื่อจัดการทรัพยากรธรณี การปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล การรณรงค์และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
2. เริ่มดำเนินงานตามกรอบแผนการดำเนินงานเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยพหุภาคีมีส่วนร่วมปี 2547 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลาง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2547 จำนวน 47.5 ล้านบาท สำหรับดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนใน 20 ลุ่มน้ำสาขา ซึ่งแผนการดำเนินงานในปีแรก จะมุ่งเน้นการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
2.1 การสร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึกและเสริมสร้างความรู้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง
2.2 การเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดย
- จัดทำแผนการปฏิบัติงานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยชุมชน และกำหนดกิจกรรม/โครงการที่สอดคล้องกับมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
- จัดทำโครงการนำร่องของหน่วยงานต่าง ๆ องค์กรชุมชน และเครือข่ายในระดับลุ่มน้ำย่อย ลุ่มน้ำสาขา และลุ่มน้ำปิง รวมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลและโครงข่ายการปฏิบัติงานให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ
- รณรงค์และสร้างเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมู่บ้าน (ทสม.) ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง การป้องกันและรักษาป่า การปลูกป่าหมู่บ้าน และกิจกรรมอื่น ๆ ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2.3 ตัวอย่างกิจกรรม/โครงการนำร่อง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความจำเป็นเร่งด่วนร่วมกับประชาชน องค์กรชุมชน และเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา 20 ลุ่มน้ำ เช่น
- เร่งรัดฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารโดยการปลูกป่า การปลูกหญ้าแฝกและการจัดทำฝายทดน้ำ (ฝายแม้ว)
- การควบคุมไฟป่าในบริเวณพื้นที่คุ้มครองและพื้นที่วิกฤต
- การจัดระเบียบชุมชนและที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่สูงและพื้นที่ต้นน้ำลำธาร
- การฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติให้สามารถกักเก็บน้ำและนำไปใช้ประโยชน์ได้ตลอดปี
- การจัดการปัญหาเรื่องทรายที่ทับถมปิดกั้นทางไหลของน้ำและการอนุญาตดูดทราย
- การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนเบื้องต้นควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายสำหรับผู้ก่อให้เกิดมลพิษ
- การถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานและเหมาะสมเพื่อการจัดการขยะและน้ำเสียโดยชุมชน
- การพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในลักษณะของเครือข่ายหรือพันธมิตรกับองค์กรชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรอื่น ๆ ในระดับพื้นที่ เป็นต้น
3. ประสานงานกับกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เพื่อขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเหลื่อมปีออกไปอีก 6 เดือน (จนถึงเดือนมีนาคม 2548) เนื่องจากมีระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างจำกัด (ประมาณ 3 เดือน) โดยเฉพาะกิจกรรมการเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดแผนการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิงและการจัดทำแผนประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละปี รวมทั้ง การดำเนินกิจกรรม/โครงการนำร่องการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง ซึ่งหากมีข้อจำกัดในการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว จะส่งผลให้แผนการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ที่ดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 และตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำปิงร่วมกับภาคประชาชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีการพัฒนาอื่น ๆ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2546 ณ จังหวัดเชียงใหม่
4. จัดทำการติดตามประเมินผลการดำเนินงานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พื้นที่ลุ่มน้ำปิง โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินงานตามแนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เป็นประธาน และคณะรัฐมนตรีมาประกอบการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. แต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธาน ผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และนครสวรรค์) ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และนักวิชาการจากส่วนกลางและท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 40 คน ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ รวม 3 ครั้ง
2. จัดตั้งสำนักงานชั่วคราว เพื่อประสานการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยเฉพาะ โดยในส่วนกลาง ตั้ง ณ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน ตั้งอยู่ ณ กลุ่มจัดการต้นน้ำ (ห้วยแก้ว) สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จังหวัดเชียงใหม่ และในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนล่าง ณ สำนักเลขานุการคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำปิงตอนล่าง สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 กรมทรัพยากรน้ำ จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง ทั้งในด้านการสนับสนุนและช่วยเหลือทางวิชาการและข้อมูลสารสนเทศ การส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกอบรม การดูงานและการจัดเวทีประชาชน ให้แก่ คณะกรรมการฯ ชุดต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งองค์กรชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
3. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและการจัดเวทีชาวบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชนและนักวิชาการท้องถิ่น ในระดับพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา 20 ลุ่มน้ำ ของพื้นที่ลุ่มน้ำปิง โดยทำการชี้แจงและสร้างความเข้าใจถึงความเป็นมาโครงการมติคณะรัฐมนตรี และแนวทางการดำเนินงานเพื่อการฟื้นฟูฯ ในลักษณะพหุภาคี ตลอดจนการรับฟังข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง สำหรับการดำเนินงานในระดับพื้นที่ในทุกระดับ
4. จัดทำกรอบแผนการดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยพหุภาคีมีส่วนร่วม ปีงบประมาณ 2547 (การดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชน) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิงแล้ว เสนอต่อสำนักงบประมาณเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2546 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท และสำนักงบประมาณเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2547 ได้แจ้งอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 47.529 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง
5. จัดประชุมประกาศเจตนารมณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีและภาคประชาชนในการฟื้นฟูทรัพยากร-ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2546 ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมประชุมจากภาคส่วนต่าง ๆ ประมาณ 2,500 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและประกาศให้พื้นที่ลุ่มน้ำปิงเป็นพื้นที่นำร่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคประชาชน ในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ซึ่งในการประชุมดังกล่าวตัวแทนประชาชนจากพื้นที่ลุ่มน้ำปิงทั้ง 20 ลุ่มน้ำสาขา ได้กล่าวแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันในการรักษาแม่น้ำปิงไว้เป็นสมบัติของอนุชนรุ่นหลังสืบไป
6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 2 ชุด ภายใต้คณะกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพหุภาคีพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ได้แก่ คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนงานและงบประมาณในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง เพื่อบูรณาการแผนงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงเพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงานของภาคส่วนต่าง ๆ ตามมาตรการการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง
สำหรับการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป สรุปได้ดังนี้
1. ดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการของหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำปิง ภายใต้งบปกติประจำปีงบประมาณ 2547 ที่ได้กำหนดไว้แล้ว จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 70 โครงการ งบประมาณรวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการการฟื้นฟูฯ ในระยะสั้น และระยะกลาง เช่น การปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ การจัดระเบียบชุมชนและที่ดินทำกิน การก่อสร้างฝายต้นน้ำ การทำแนวกันไฟ การปลูกป่าเศรษฐกิจ การปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ การปรับปรุงฟื้นฟูระบบน้ำเสียรวมชุมชน การสำรวจเพื่อจัดการทรัพยากรธรณี การปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล การรณรงค์และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
2. เริ่มดำเนินงานตามกรอบแผนการดำเนินงานเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยพหุภาคีมีส่วนร่วมปี 2547 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลาง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2547 จำนวน 47.5 ล้านบาท สำหรับดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนใน 20 ลุ่มน้ำสาขา ซึ่งแผนการดำเนินงานในปีแรก จะมุ่งเน้นการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
2.1 การสร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึกและเสริมสร้างความรู้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง
2.2 การเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดย
- จัดทำแผนการปฏิบัติงานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิงโดยชุมชน และกำหนดกิจกรรม/โครงการที่สอดคล้องกับมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
- จัดทำโครงการนำร่องของหน่วยงานต่าง ๆ องค์กรชุมชน และเครือข่ายในระดับลุ่มน้ำย่อย ลุ่มน้ำสาขา และลุ่มน้ำปิง รวมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลและโครงข่ายการปฏิบัติงานให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ
- รณรงค์และสร้างเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมู่บ้าน (ทสม.) ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง การป้องกันและรักษาป่า การปลูกป่าหมู่บ้าน และกิจกรรมอื่น ๆ ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2.3 ตัวอย่างกิจกรรม/โครงการนำร่อง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความจำเป็นเร่งด่วนร่วมกับประชาชน องค์กรชุมชน และเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา 20 ลุ่มน้ำ เช่น
- เร่งรัดฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารโดยการปลูกป่า การปลูกหญ้าแฝกและการจัดทำฝายทดน้ำ (ฝายแม้ว)
- การควบคุมไฟป่าในบริเวณพื้นที่คุ้มครองและพื้นที่วิกฤต
- การจัดระเบียบชุมชนและที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่สูงและพื้นที่ต้นน้ำลำธาร
- การฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติให้สามารถกักเก็บน้ำและนำไปใช้ประโยชน์ได้ตลอดปี
- การจัดการปัญหาเรื่องทรายที่ทับถมปิดกั้นทางไหลของน้ำและการอนุญาตดูดทราย
- การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนเบื้องต้นควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายสำหรับผู้ก่อให้เกิดมลพิษ
- การถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานและเหมาะสมเพื่อการจัดการขยะและน้ำเสียโดยชุมชน
- การพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในลักษณะของเครือข่ายหรือพันธมิตรกับองค์กรชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรอื่น ๆ ในระดับพื้นที่ เป็นต้น
3. ประสานงานกับกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เพื่อขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณปี 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเหลื่อมปีออกไปอีก 6 เดือน (จนถึงเดือนมีนาคม 2548) เนื่องจากมีระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างจำกัด (ประมาณ 3 เดือน) โดยเฉพาะกิจกรรมการเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดแผนการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิงและการจัดทำแผนประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละปี รวมทั้ง การดำเนินกิจกรรม/โครงการนำร่องการฟื้นฟูฯ ลุ่มน้ำปิง ซึ่งหากมีข้อจำกัดในการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว จะส่งผลให้แผนการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ที่ดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 และตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำปิงร่วมกับภาคประชาชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีการพัฒนาอื่น ๆ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2546 ณ จังหวัดเชียงใหม่
4. จัดทำการติดตามประเมินผลการดำเนินงานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พื้นที่ลุ่มน้ำปิง โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-