คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง โครงการศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค (Strategic Energy Landbridge) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. รับทราบแนวทางการดำเนินงานการจัดตั้งเขตปลอดอากรที่ศรีราชา (Sriracha Hub)
2. เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามโครงการศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค (Strategic Energy Landbridge : SELB) กระทรวงพลังงานรายงานว่า การดำเนินงานตามโครงการศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคประกอบด้วย
1.1 การจัดตั้งเขตปลอดอากรที่ศรีราชา การดำเนินการที่แล้วเสร็จ คือ การแก้ไขกฎ ระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการส่งออกปิโตรเลียมไปต่างประเทศ จำนวน 18 ฉบับ และผู้ค้าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกรรมในเขตปลอดอากรแล้ว 3 ราย สำหรับแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป คือ การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้าที่ได้รับอนุญาต ฯ 3 ราย และผู้ประกอบการค้าน้ำมันที่ส่งออกอยู่แล้วให้เข้ามาทำการค้าในเขตปลอดอากร ประกอบด้วย 1) การจัดหาคลังน้ำมันให้เพียงพอกับการทำธุรกรรมในเขตปลอดอากร 2) การอำนวยความสะดวกในเรื่องการผสมน้ำมัน (Blending) 3) การมีระบบภาษีและบัญชีที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมการค้าน้ำมัน 4) การมีระบบการเงินที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมการค้าน้ำมัน
1.2 โครงการเส้นทางยุทธศาสตร์พลังงาน (SELB) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1) วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในการจัดหาและสำรองน้ำมัน เพิ่มทางเลือกเส้นทางการขนส่งน้ำมันแทนช่องแคบมะละกา การพัฒนาตลาดน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเลียมต่อเนื่องของภูมิภาค และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและพื้นที่ภาคใต้
2) จุดที่ตั้งโครงการ ทางฝั่งตะวันตก จุดขึ้นของท่อขนส่งน้ำมันบริเวณอำเภอท้ายเมือง จังหวัดพังงา อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นเปรียบเทียบ 3 จุด ได้แก่ 1) บ้านทุ่งมะพร้าว 2) บ้านบ่อดาน และ 3) บ้านหารหัก และทางฝั่งตะวันออก จุดปลายท่อขนส่งน้ำมันบริเวณบ้านทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เส้นทางจากแยกทางหลวง # 44 - อำเภอกาญจนดิษฐ์ -ทางหลวง # 401 - ทางหลวงชนบท # 3009 - บ้านทุ่งใส
3) ตลาดเป้าหมายของการดำเนินการ ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศด้านตะวันออกอื่น ๆ รวมการใช้ 14.5 ล้านบาร์เรล/วัน
4) ลักษณะโครงการ จะมีลักษณะเป็นท่อส่งน้ำมันขนาด 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 48 นิ้ว ระยะทางประเทศ 250 กิโลเมตร เงินลงทุน 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คลังน้ำมันทั้ง 2 ฝั่งมีความจุประมาณ 16 ล้านบาร์เรล/วัน และทุ่นรับ-จ่ายน้ำมัน (SPM) ฝั่งตะวันตกรับเรือขนาด 300,000 - 450,000 ตัน และฝั่งตะวันออกรับเรือขนาด 100,000-300,000 ตัน
5) ผลตอบแทนโครงการและค่าบริการผ่านท่อ เพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR on EQUITY) ร้อยละ 10 ค่าผ่านท่อเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ภายใต้ข้อสมมติฐานอายุโครงการ 20 ปี เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ร้อยละ 0.75) ซึ่งอยู่ในอัตราที่สูงส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของโครงการเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางเรือโดยตรงจากตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออก)
6) การขนส่งผ่านระบบท่อ SELB สามารถแข่งขันได้กับการขนส่งโดยตรงจากตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออก ด้วยเรือขนาด 80,000 -135,000 ตัน (มีจำนวนมากกว่า 786 ลำ ในปี 2546 และจะเพิ่มเป็น 930 ลำ ในปี 2548) และจะมีต้นทุนที่สูงกว่าการขนส่งด้วยเรือขนาด 300,000 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งโดยตรงจากตะวันออกกลาง - เอเชียตะวันออก ประมาณ 0.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
7) แนวทางการดำเนินงานต่อไป
(1) กระทรวงพลังงานเร่งเจรจากับรัฐบาลจีน เกาหลี และรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหาความ ชัดเจนของปริมาณน้ำมันทั้งที่ 3 ประเทศตกลงจะขนส่งและสำรองน้ำมันผ่านระบบท่อ SELB (2) กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศประสานการจัดตั้งคณะทำงานร่วม 3 ประเทศ (ไทย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น) ใน 2 ระดับ ได้แก่ ระดับ นโยบาย โดยกระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และระดับเทคนิค โดยผู้แทนจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติ 4 ประเทศ เพื่อร่วมหารือในรายละเอียดและแนวทางการจัดทำรายละเอียดแผนปฏิบัติการและแผนการเงินเพื่อนำไปสู่การกำหนดสัดส่วนการลงทุนของกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป (3) กระทรวงพลังงานเร่งจัดทำรายละเอียดด้านเทคนิคของจุดปลายและแนวท่อขนส่งน้ำมัน รวมถึงจุดที่ตั้งของถังเก็บน้ำมันโรงกลั่นน้ำมัน และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การออกแบบและก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันให้แล้วเสร็จภายในปี 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. รับทราบแนวทางการดำเนินงานการจัดตั้งเขตปลอดอากรที่ศรีราชา (Sriracha Hub)
2. เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามโครงการศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค (Strategic Energy Landbridge : SELB) กระทรวงพลังงานรายงานว่า การดำเนินงานตามโครงการศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคประกอบด้วย
1.1 การจัดตั้งเขตปลอดอากรที่ศรีราชา การดำเนินการที่แล้วเสร็จ คือ การแก้ไขกฎ ระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการส่งออกปิโตรเลียมไปต่างประเทศ จำนวน 18 ฉบับ และผู้ค้าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกรรมในเขตปลอดอากรแล้ว 3 ราย สำหรับแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป คือ การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้าที่ได้รับอนุญาต ฯ 3 ราย และผู้ประกอบการค้าน้ำมันที่ส่งออกอยู่แล้วให้เข้ามาทำการค้าในเขตปลอดอากร ประกอบด้วย 1) การจัดหาคลังน้ำมันให้เพียงพอกับการทำธุรกรรมในเขตปลอดอากร 2) การอำนวยความสะดวกในเรื่องการผสมน้ำมัน (Blending) 3) การมีระบบภาษีและบัญชีที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมการค้าน้ำมัน 4) การมีระบบการเงินที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมการค้าน้ำมัน
1.2 โครงการเส้นทางยุทธศาสตร์พลังงาน (SELB) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1) วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในการจัดหาและสำรองน้ำมัน เพิ่มทางเลือกเส้นทางการขนส่งน้ำมันแทนช่องแคบมะละกา การพัฒนาตลาดน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเลียมต่อเนื่องของภูมิภาค และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและพื้นที่ภาคใต้
2) จุดที่ตั้งโครงการ ทางฝั่งตะวันตก จุดขึ้นของท่อขนส่งน้ำมันบริเวณอำเภอท้ายเมือง จังหวัดพังงา อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นเปรียบเทียบ 3 จุด ได้แก่ 1) บ้านทุ่งมะพร้าว 2) บ้านบ่อดาน และ 3) บ้านหารหัก และทางฝั่งตะวันออก จุดปลายท่อขนส่งน้ำมันบริเวณบ้านทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เส้นทางจากแยกทางหลวง # 44 - อำเภอกาญจนดิษฐ์ -ทางหลวง # 401 - ทางหลวงชนบท # 3009 - บ้านทุ่งใส
3) ตลาดเป้าหมายของการดำเนินการ ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศด้านตะวันออกอื่น ๆ รวมการใช้ 14.5 ล้านบาร์เรล/วัน
4) ลักษณะโครงการ จะมีลักษณะเป็นท่อส่งน้ำมันขนาด 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 48 นิ้ว ระยะทางประเทศ 250 กิโลเมตร เงินลงทุน 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คลังน้ำมันทั้ง 2 ฝั่งมีความจุประมาณ 16 ล้านบาร์เรล/วัน และทุ่นรับ-จ่ายน้ำมัน (SPM) ฝั่งตะวันตกรับเรือขนาด 300,000 - 450,000 ตัน และฝั่งตะวันออกรับเรือขนาด 100,000-300,000 ตัน
5) ผลตอบแทนโครงการและค่าบริการผ่านท่อ เพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR on EQUITY) ร้อยละ 10 ค่าผ่านท่อเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ภายใต้ข้อสมมติฐานอายุโครงการ 20 ปี เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ร้อยละ 0.75) ซึ่งอยู่ในอัตราที่สูงส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของโครงการเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางเรือโดยตรงจากตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออก)
6) การขนส่งผ่านระบบท่อ SELB สามารถแข่งขันได้กับการขนส่งโดยตรงจากตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออก ด้วยเรือขนาด 80,000 -135,000 ตัน (มีจำนวนมากกว่า 786 ลำ ในปี 2546 และจะเพิ่มเป็น 930 ลำ ในปี 2548) และจะมีต้นทุนที่สูงกว่าการขนส่งด้วยเรือขนาด 300,000 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งโดยตรงจากตะวันออกกลาง - เอเชียตะวันออก ประมาณ 0.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
7) แนวทางการดำเนินงานต่อไป
(1) กระทรวงพลังงานเร่งเจรจากับรัฐบาลจีน เกาหลี และรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหาความ ชัดเจนของปริมาณน้ำมันทั้งที่ 3 ประเทศตกลงจะขนส่งและสำรองน้ำมันผ่านระบบท่อ SELB (2) กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศประสานการจัดตั้งคณะทำงานร่วม 3 ประเทศ (ไทย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น) ใน 2 ระดับ ได้แก่ ระดับ นโยบาย โดยกระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และระดับเทคนิค โดยผู้แทนจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติ 4 ประเทศ เพื่อร่วมหารือในรายละเอียดและแนวทางการจัดทำรายละเอียดแผนปฏิบัติการและแผนการเงินเพื่อนำไปสู่การกำหนดสัดส่วนการลงทุนของกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป (3) กระทรวงพลังงานเร่งจัดทำรายละเอียดด้านเทคนิคของจุดปลายและแนวท่อขนส่งน้ำมัน รวมถึงจุดที่ตั้งของถังเก็บน้ำมันโรงกลั่นน้ำมัน และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การออกแบบและก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันให้แล้วเสร็จภายในปี 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-