คณะรัฐมนตรีอนุมัติการขยายเวลาการรับส่งมอบรถยนต์รวมถึงเอกสารหลักฐานของราชการออกไปสำหรับโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก โดยมีแนวทางการดำเนินงานตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการ รวมทั้งให้กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การดำเนินการให้ผู้ซื้อที่ระบุในใบจองรถยนต์ตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกและผู้ซื้อรถยนต์ที่ยื่นขอใช้สิทธิต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการอย่างเคร่งครัดต่อไป
1. กรมสรรพสามิตได้ดำเนินโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 เป็นระยะเวลากว่า 10 เดือน ซึ่งในช่วงแรกของโครงการฯ ประสบกับปัญหาอุทกภัยส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่บางแห่งหยุดดำเนินการประมาณ 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้สนใจซื้อรถยนต์ตามโครงการเพิ่มสูงมาก โดยผู้ผลิตรถยนต์คาดว่าการผลิตรถยนต์ในปี 2555 จะสูงกว่า 2 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขการผลิตสูงสุดใหม่ นอกจากนี้โครงการรถยนต์ใหม่คันแรกยังเป็นการสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการผลิตรถยนต์ ECO-Car เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เช่น ซูซูกิ Swift ฮอนด้า Brio นิสสัน Almera และมิตซูบิชิ Mirage ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศไทยมี Product Champion สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์อีกประเภท หลังจากที่กรมสรรพสามิตประสบความสำเร็จในการใช้มาตรการทางด้านภาษีส่งเสริมรถยนต์กระบะและรถยนต์นั่งที่มีกระบะให้เป็น Product Champion ของประเทศไทยไปแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 มีจำนวนผู้ยื่นขอใช้สิทธิฯ ตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกกับกรมสรรพสามิตแล้วประมาณ 93,833 ราย และจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายคืนประมาณ 6,823 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าความต้องการซื้อรถยนต์คันแรกจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง
2. จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์คาดว่าในปีนี้จะมียอดสั่งจองรถยนต์ที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์รถยนต์ใหม่คันแรกประมาณ 425,000 คัน ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตเร่งการผลิตแล้วก็อาจจะไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ทันในวันที่สิ้นสุดโครงการ ฯ (วันที่ 31 ธันวาคม 2555) ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ ไม่สามารถรับรถยนต์ได้ทันภายในปีนี้ จึงไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานได้ทันตามกำหนดเวลาข้างต้น
3. เพื่อให้โครงการรถยนต์ใหม่คันแรกดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกทั้งเพื่อชดเชยกับระยะเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์และโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่หยุดดำเนินการเนื่องจากประสบอุทกภัย กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ควรขยายเวลาวันสิ้นสุดโครงการฯ แต่เห็นควรขยายเวลารับและส่งมอบรถยนต์รวมถึงเอกสารหลักฐานบางรายการออกไป โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
3.1 ผู้ขอใช้สิทธิฯ ต้องทำการซื้อหรือจองรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และต้องยื่นคำขอใช้สิทธิฯ และเอกสารประกอบการใช้สิทธิฯ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ดังนี้ (1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (2) สำเนาทะเบียนบ้าน (3) สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ถ้ามี)(4) สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ขอใช้สิทธิฯ (5) ใบจองรถยนต์ (ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555)
3.2 เนื่องจากในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ผู้ขอใช้สิทธิฯ อาจจะยังไม่ได้รับมอบรถยนต์หรือจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกไม่ทันตามกำหนดเวลาส่งผลให้ไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ได้ภายในวันสิ้นสุดโครงการฯ (31 ธันวาคม 2555) จึงผ่อนผันให้ผู้ขอใช้สิทธิฯ นำเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมมายื่น ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาภายในระยะเวลา 90 วันนับจากวันถัดจากวันรับมอบรถยนต์ ดังนี้
(1) หนังสือสัญญายินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์ใหม่คันแรก
(2) สำเนาหลักฐานการซื้อขายรถยนต์
(2.1) กรณีการซื้อด้วยเงินสด ดังนี้ 1) สำเนาใบเสร็จรับเงินหรือสำเนาสัญญาซื้อขาย 2) สำเนาเอกสารการรับมอบรถยนต์
(2.2) กรณีเช่าซื้อ ดังนี้ 1) สำเนาใบเสร็จรับเงิน 2) สำเนาเอกสารการ รับมอบรถยนต์ 3) สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ
(3) สำเนาคู่มือจดทะเบียน
3.3 หากผู้ขอใช้สิทธิฯ ไม่ดำเนินการตามข้อ 3.1 และนำเอกสารเพิ่มเติมในข้อ 3.2 มายื่น ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้ขอใช้สิทธิ ฯ ไม่ประสงค์จะขอรับเงินคืนตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกและจะเรียกร้องสิทธิฯ และค่าเสียหายใด ๆ กับทางราชการไม่ได้
อนึ่ง เพื่อให้นโยบายรัฐบาลในเรื่องรถยนต์ใหม่คันแรกประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและให้เกิดความคล่องตัว ควรให้กรมสรรพสามิตสามารถกำหนดแนวปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไปได้
3.4 ผู้ขอใช้สิทธิฯ จะได้รับเงินคืนหลังจากครอบครองรถยนต์ใหม่คันแรกไปแล้ว 1 ปี หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด ทั้งนี้ ชื่อผู้ซื้อที่ระบุในใบจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จะต้องเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ซื้อรถยนต์ที่ยื่นขอใช้สิทธิฯ ดังกล่าวเท่านั้น หากเป็นบุคคลอื่นจะไม่ได้รับสิทธิฯ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการซื้อและขายใบจองรถยนต์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 กรกฎาคม 2555--จบ--