1. แต่งตั้ง ข้าราชการพลเรือน ระดับ 10 (กระทรวงสาธารณสุข)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ระดับ 10จำนวน 3 รายดังนี้
1. แต่งตั้ง นางอรวรรณ ศิลปกิจ นายแพทย์ 9 วช ด้านเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช ด้านเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
2. แต่งตั้ง นางสุบุญญา หุตังคบดี นักวิชาการอาหารและยา 9 ชช ด้านอาหารและยา กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการอาหารและยา 10 ชช ด้านอาหารและยา กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
3. แต่งตั้ง นายสมนึก ชาญด้วยกิจ ทันตแพทย์ 9 วช ด้านทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ให้ดำรงตำแหน่ง ทันตแพทย์ 10 วช ด้านทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
2. แต่งตั้ง ข้าราชการพลเรือน ระดับ 10 (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้ง นายวินัย วิทวัสการเวช รองอธิบดี (นักบริหาร 9) กรมสรรพากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
3. แต่งตั้งกรรมการบริหารและกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอให้แต่งตั้งกรรมการบริหารและกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ดังนี้ 1. กรรมการบริหาร จำนวน 5 คน 2. กรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ จำนวน 139 คน 12 สาขาวิชาการ และให้กรรมการบริหารทั้ง 5 คนในข้อ 1 เป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติด้วย รวมเป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติทั้งสิ้น 144 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
4. การแต่งตั้งข้าราชการ ระดับ 10 (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ ให้แต่งตั้งนางสุภาวดี เวชศิลป์ ที่ปรึกษาระบบราชการ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์งานบุคคล 10 ชช) สำนักงาน ก.พ. ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ. (นักบริหาร 10) สำนักงานก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2548 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ต่อไป
5. แต่งตั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 516/2548 เรื่อง แต่งตั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ดังนี้
1. ให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 272/2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 ที่ 152/2548 ลงวันที่ 23 เมษายน 2548 และที่ 366/2548 ลงวันที่ 23 กันยายน 2548 บรรดาคำสั่งอื่นใดซึ่งขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
2. ให้พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัด ความยากจน ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติขึ้นในสำนักเลขาธิการนายก-รัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางและมาตรการในการประสานงาน เร่งรัด กำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการขจัดความยากจน โดยไม่ขัดหรือแย้งต่อมติคณะรัฐมนตรี หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และให้มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี ประสานการดำเนินการกับส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดและได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว
ให้ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดความยากจนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว และมีอำนาจออกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้อำนวยการศูนย์ กรรมการเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความจำเป็น แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดความยากจน มีอำนาจปฏิบัติราชการทั่วไปตามนโยบายรัฐบาลในการขจัดความยากจน และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ มีอำนาจเรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐมาชี้แจงสั่งการเจ้าหน้าที่กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ให้ดำเนินการหรืองดเว้นการดำเนินการใดที่ขัดต่อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน รับเรื่องร้องเรียนจากราษฎรและดำเนินการตรวจสอบ ตลอดจนประสานการดำเนินการระหว่างส่วนราชการหลายแห่งให้ร่วมกันปฏิบัติราชการอย่างเป็นบูรณาการ ในกรณีเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม นโยบายและเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาให้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินในด้านการขจัดความยากจนเป็นไปโดยรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย
3. ให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดยาเสพติด
ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ โดยมีประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านนโยบายขจัดยาเสพติดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่และมีอำนาจตามวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ของข้อ 2 โดยอนุโลมเฉพาะในส่วนของนโยบายขจัดยาเสพติด
4. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกแก่ศูนย์ตามข้อ 2 และข้อ 3 ในด้านงานธุรการ การปฏิบัติหน้าที่ การประชุม งบประมาณ และการจัดให้มีบุคลากรมาช่วยงานตามความจำเป็น
ในกรณีมีปัญหาขัดข้อง ให้ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หรือ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบหรือวินิจฉัย
6. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของรัฐ
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 518/2548 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของรัฐ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
นายจาดุร อภิชาตบุตร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วยอัยการสูงสุดหรือผู้แทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้แทน รองศาสตราจารย์ ดรุณี หิรัญรักษ์ รองศาสตราจารย์มาลี บุญศิริพันธ์ โดยมีข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐทุกประเภท ทั้งในฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารว่าเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ แล้วให้รายงานข้อเท็จจริงและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดี ให้คณะกรรมการมีอำนาจ ดังต่อไปนี้
1. เรียกให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐ มาให้ข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการหรือผู้ที่คณะกรรมการมอบหมาย
2. เรียกให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐ ส่งเอกสารสัญญา และพยานหลักฐานอื่นมาเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
3. ในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน มีอำนาจสั่งระงับการกระทำอันเป็นการขัดมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้ควบคุม หรือกำกับดูแลสถานีวิทยุหรือสถานีโทรทัศน์ที่ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวทราบโดยพลัน
4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือบุคคล และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการหรือบุคคลดังกล่าวดำเนินการแทนคณะกรรมการ
5. รายงานข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบและเสนอแนะความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีทุก 7 วัน จนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 ธันวาคม 2548--จบ--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ระดับ 10จำนวน 3 รายดังนี้
1. แต่งตั้ง นางอรวรรณ ศิลปกิจ นายแพทย์ 9 วช ด้านเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช ด้านเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
2. แต่งตั้ง นางสุบุญญา หุตังคบดี นักวิชาการอาหารและยา 9 ชช ด้านอาหารและยา กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการอาหารและยา 10 ชช ด้านอาหารและยา กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
3. แต่งตั้ง นายสมนึก ชาญด้วยกิจ ทันตแพทย์ 9 วช ด้านทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ให้ดำรงตำแหน่ง ทันตแพทย์ 10 วช ด้านทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
2. แต่งตั้ง ข้าราชการพลเรือน ระดับ 10 (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้ง นายวินัย วิทวัสการเวช รองอธิบดี (นักบริหาร 9) กรมสรรพากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
3. แต่งตั้งกรรมการบริหารและกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอให้แต่งตั้งกรรมการบริหารและกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ดังนี้ 1. กรรมการบริหาร จำนวน 5 คน 2. กรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ จำนวน 139 คน 12 สาขาวิชาการ และให้กรรมการบริหารทั้ง 5 คนในข้อ 1 เป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติด้วย รวมเป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติทั้งสิ้น 144 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
4. การแต่งตั้งข้าราชการ ระดับ 10 (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ ให้แต่งตั้งนางสุภาวดี เวชศิลป์ ที่ปรึกษาระบบราชการ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์งานบุคคล 10 ชช) สำนักงาน ก.พ. ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ. (นักบริหาร 10) สำนักงานก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2548 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ต่อไป
5. แต่งตั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 516/2548 เรื่อง แต่งตั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ดังนี้
1. ให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 272/2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 ที่ 152/2548 ลงวันที่ 23 เมษายน 2548 และที่ 366/2548 ลงวันที่ 23 กันยายน 2548 บรรดาคำสั่งอื่นใดซึ่งขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
2. ให้พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัด ความยากจน ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติขึ้นในสำนักเลขาธิการนายก-รัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางและมาตรการในการประสานงาน เร่งรัด กำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการขจัดความยากจน โดยไม่ขัดหรือแย้งต่อมติคณะรัฐมนตรี หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และให้มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี ประสานการดำเนินการกับส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดและได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว
ให้ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดความยากจนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว และมีอำนาจออกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้อำนวยการศูนย์ กรรมการเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความจำเป็น แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดความยากจน มีอำนาจปฏิบัติราชการทั่วไปตามนโยบายรัฐบาลในการขจัดความยากจน และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ มีอำนาจเรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐมาชี้แจงสั่งการเจ้าหน้าที่กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ให้ดำเนินการหรืองดเว้นการดำเนินการใดที่ขัดต่อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน รับเรื่องร้องเรียนจากราษฎรและดำเนินการตรวจสอบ ตลอดจนประสานการดำเนินการระหว่างส่วนราชการหลายแห่งให้ร่วมกันปฏิบัติราชการอย่างเป็นบูรณาการ ในกรณีเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม นโยบายและเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาให้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินในด้านการขจัดความยากจนเป็นไปโดยรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย
3. ให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดยาเสพติด
ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ โดยมีประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านนโยบายขจัดยาเสพติดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่และมีอำนาจตามวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ของข้อ 2 โดยอนุโลมเฉพาะในส่วนของนโยบายขจัดยาเสพติด
4. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกแก่ศูนย์ตามข้อ 2 และข้อ 3 ในด้านงานธุรการ การปฏิบัติหน้าที่ การประชุม งบประมาณ และการจัดให้มีบุคลากรมาช่วยงานตามความจำเป็น
ในกรณีมีปัญหาขัดข้อง ให้ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หรือ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบหรือวินิจฉัย
6. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของรัฐ
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 518/2548 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของรัฐ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
นายจาดุร อภิชาตบุตร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วยอัยการสูงสุดหรือผู้แทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้แทน รองศาสตราจารย์ ดรุณี หิรัญรักษ์ รองศาสตราจารย์มาลี บุญศิริพันธ์ โดยมีข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบการให้เช่าเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ในความควบคุมของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐทุกประเภท ทั้งในฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารว่าเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ แล้วให้รายงานข้อเท็จจริงและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดี ให้คณะกรรมการมีอำนาจ ดังต่อไปนี้
1. เรียกให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐ มาให้ข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการหรือผู้ที่คณะกรรมการมอบหมาย
2. เรียกให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐ ส่งเอกสารสัญญา และพยานหลักฐานอื่นมาเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
3. ในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน มีอำนาจสั่งระงับการกระทำอันเป็นการขัดมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้ควบคุม หรือกำกับดูแลสถานีวิทยุหรือสถานีโทรทัศน์ที่ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวทราบโดยพลัน
4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือบุคคล และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการหรือบุคคลดังกล่าวดำเนินการแทนคณะกรรมการ
5. รายงานข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบและเสนอแนะความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีทุก 7 วัน จนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 ธันวาคม 2548--จบ--