คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ครอบคลุมในทุกด้านนั้น
กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา โดยได้แต่งตั้งคณะบริหารและกำกับการปฏิบัติงานการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงศึกษาธิการมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ทั้งนี้ เพื่อกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนา รวมทั้งกำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงาน และสถานศึกษาในสังกัด ให้มีความรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรผู้สอน
1.1 กระทรวงศึกษาธิการได้รับอัตรากำลังข้าราชการครู จำนวน 1,432 อัตรา ครูอัตราจ้างชั่วคราว 934 อัตรา เพื่อแก้ไขปัญหาความขาดแคลนอัตรากำลังครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547 ได้ดำเนินการบรรจุและจัดจ้างเรียบรอยแล้ว ดังนี้
1) บรรจุข้าราชการครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,432 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 417 อัตรา ปัตตานี 549 อัตรา และนราธิวาส 466 อัตรา
2) จัดจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวรายเดือน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 830 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 260 อัตรา ปัตตานี 308 อัตรา และนราธิวาส 262 อัตรา และจัดจ้างครูอาสาการศึกษานอกโรงเรียน จำนวน 104 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 15 อัตรา ปัตตานี 59 อัตรา และนราธิวาส 30 อัตรา ทั้งนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เน้นการสรรหาบุคคลในพื้นที่เป็นหลัก
1.2 จัดจ้างวิทยากรสอนศาสนาอิสลามในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 681 คน จำแนกเป็น ยะลา 155 คน ปัตตานี 247 คน และนราธิวาส 279 คน รวมทั้งมีการจ้างลูกจ้างประจำสอนศาสนาอิสลามจำนวน 134 คน จำแนกเป็น ยะลา 32 คน ปัตตานี 46 คน และ นราธิวาส 56 คน
2. การพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.1 จัดทำระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันการศึกษาปอเนาะ พ.ศ. 2547
2.2 ได้ดำเนินการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะแล้ว จำนวน 214 แห่ง
2.3 จัดทำคู่มือการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ พ.ศ. 2547 ให้จังหวัดเป็นแนวทางในการรับจดทะเบียนปอเนาะที่ยังเหลืออยู่
2.4 สำรวจความต้องการของสถาบันศึกษาปอเนาะที่จดทะเบียนแล้ว ทั้ง 214 แห่ง เพื่อเตรียมการในการพัฒนา ทั้งทางด้านศักยภาพและด้านวิชาการ
2.5 พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาแบบบูรณาการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่สำหรับสถาบันศึกษาปอเนาะ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
3. การปรับปรุง ซ่อมแซมโรงเรียน
3.1 ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ที่จังหวัดนราธิวาส (ถูกลอบวางเพลิง 20 โรง เสียหาย 17 โรง) เสร็จเรียบร้อยแล้วโดยสถาบันการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นหน่วยงานดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ ได้รับงบประมาณงบกลางจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 23,524,310 บาท
3.2 ปรับปรุง ซ่อมแซม สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีสภาพชำรุด ทรุดโทรม และมีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี โดยจัดสรรงบประมาณให้เขตพื้นที่การศึกษา ๆ ละ 1,000,000 บาท รวม 6,000,000 บาท เพื่อดำเนินการ ร่วมกับสถาบันการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและเน้นให้มีการจ้างงานในพื้นที่
4. การหารายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน นักศึกษา
4.1 จัดโครงการเรียนรู้ ICT เพื่อสร้างรายได้ระหว่างปิดภาคเรียนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐ เอกชน และสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวนทั้งสิ้น 3,037 คน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 10 ล้านบาท
4.2 จัดจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานหารายได้ระหว่างเรียนของ 3 จังหวัด (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) ในสถานศึกษา 142 แห่ง นักเรียน นักศึกษา รวม 7,809 คน งบประมาณ 15,689,320 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุมัติใช้งบประมาณไปยังสำนักงบประมาณ (คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 300 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2547 เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียน ของกระทรวงศึกษาธิการ)
5. โครงการน้ำใจชาวไทยสู่นราธิวาสฯ สำหรับนักเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ค่ายเพื่อนเรียนรู้)
ได้นำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) จำนวน 105 คน มาทัศนศึกษา พร้อมทำจัดกิจกรรม "ค่ายเพื่อนเรียนรู้" ร่วมกับนักเรียนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 50 คน รวมทั้งหมด 155 คน เมื่อวันที่ 14-19 มิถุนายน 2547 ทั้งนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้ถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การเสริมสร้างวินัยในการท่องเที่ยว และการรักษาสิ่งแวดล้อมปลูกจิตสำนึกความเป็นไทยและรักชาติ รวมทั้งได้จัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และการสร้างการทำงานเป็นทีม ซึ่งจากการประเมินผลโครงการทั้งนักเรียนและครูมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก และจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องอีก 3 รุ่น ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ครอบคลุมในทุกด้านนั้น
กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา โดยได้แต่งตั้งคณะบริหารและกำกับการปฏิบัติงานการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงศึกษาธิการมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ทั้งนี้ เพื่อกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนา รวมทั้งกำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงาน และสถานศึกษาในสังกัด ให้มีความรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรผู้สอน
1.1 กระทรวงศึกษาธิการได้รับอัตรากำลังข้าราชการครู จำนวน 1,432 อัตรา ครูอัตราจ้างชั่วคราว 934 อัตรา เพื่อแก้ไขปัญหาความขาดแคลนอัตรากำลังครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547 ได้ดำเนินการบรรจุและจัดจ้างเรียบรอยแล้ว ดังนี้
1) บรรจุข้าราชการครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,432 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 417 อัตรา ปัตตานี 549 อัตรา และนราธิวาส 466 อัตรา
2) จัดจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวรายเดือน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 830 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 260 อัตรา ปัตตานี 308 อัตรา และนราธิวาส 262 อัตรา และจัดจ้างครูอาสาการศึกษานอกโรงเรียน จำนวน 104 อัตรา จำแนกเป็น ยะลา 15 อัตรา ปัตตานี 59 อัตรา และนราธิวาส 30 อัตรา ทั้งนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เน้นการสรรหาบุคคลในพื้นที่เป็นหลัก
1.2 จัดจ้างวิทยากรสอนศาสนาอิสลามในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 681 คน จำแนกเป็น ยะลา 155 คน ปัตตานี 247 คน และนราธิวาส 279 คน รวมทั้งมีการจ้างลูกจ้างประจำสอนศาสนาอิสลามจำนวน 134 คน จำแนกเป็น ยะลา 32 คน ปัตตานี 46 คน และ นราธิวาส 56 คน
2. การพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.1 จัดทำระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันการศึกษาปอเนาะ พ.ศ. 2547
2.2 ได้ดำเนินการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะแล้ว จำนวน 214 แห่ง
2.3 จัดทำคู่มือการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ พ.ศ. 2547 ให้จังหวัดเป็นแนวทางในการรับจดทะเบียนปอเนาะที่ยังเหลืออยู่
2.4 สำรวจความต้องการของสถาบันศึกษาปอเนาะที่จดทะเบียนแล้ว ทั้ง 214 แห่ง เพื่อเตรียมการในการพัฒนา ทั้งทางด้านศักยภาพและด้านวิชาการ
2.5 พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาแบบบูรณาการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่สำหรับสถาบันศึกษาปอเนาะ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
3. การปรับปรุง ซ่อมแซมโรงเรียน
3.1 ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ที่จังหวัดนราธิวาส (ถูกลอบวางเพลิง 20 โรง เสียหาย 17 โรง) เสร็จเรียบร้อยแล้วโดยสถาบันการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นหน่วยงานดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ ได้รับงบประมาณงบกลางจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 23,524,310 บาท
3.2 ปรับปรุง ซ่อมแซม สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีสภาพชำรุด ทรุดโทรม และมีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี โดยจัดสรรงบประมาณให้เขตพื้นที่การศึกษา ๆ ละ 1,000,000 บาท รวม 6,000,000 บาท เพื่อดำเนินการ ร่วมกับสถาบันการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและเน้นให้มีการจ้างงานในพื้นที่
4. การหารายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน นักศึกษา
4.1 จัดโครงการเรียนรู้ ICT เพื่อสร้างรายได้ระหว่างปิดภาคเรียนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐ เอกชน และสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวนทั้งสิ้น 3,037 คน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 10 ล้านบาท
4.2 จัดจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานหารายได้ระหว่างเรียนของ 3 จังหวัด (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) ในสถานศึกษา 142 แห่ง นักเรียน นักศึกษา รวม 7,809 คน งบประมาณ 15,689,320 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุมัติใช้งบประมาณไปยังสำนักงบประมาณ (คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 300 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2547 เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียน ของกระทรวงศึกษาธิการ)
5. โครงการน้ำใจชาวไทยสู่นราธิวาสฯ สำหรับนักเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ค่ายเพื่อนเรียนรู้)
ได้นำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) จำนวน 105 คน มาทัศนศึกษา พร้อมทำจัดกิจกรรม "ค่ายเพื่อนเรียนรู้" ร่วมกับนักเรียนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 50 คน รวมทั้งหมด 155 คน เมื่อวันที่ 14-19 มิถุนายน 2547 ทั้งนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้ถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การเสริมสร้างวินัยในการท่องเที่ยว และการรักษาสิ่งแวดล้อมปลูกจิตสำนึกความเป็นไทยและรักชาติ รวมทั้งได้จัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และการสร้างการทำงานเป็นทีม ซึ่งจากการประเมินผลโครงการทั้งนักเรียนและครูมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก และจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องอีก 3 รุ่น ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-