คณะรัฐมนตรีอนุมัติ การจัดทำความตกลงฯ กับฝ่ายภูฏาน และอนุมัติให้มีการลงนามในความตกลงฯ ดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ในระหว่างการประชุม BIMST-EC ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2547 สาระสำคัญของความตกลงสรุปได้ ดังนี้
1. คู่ภาคีจะร่วมกันพัฒนาและขยายความร่วมมือทางการค้า ส่งเสริมการลงทุนในสาขาต่างๆ ที่ได้ร่วมกันกำหนด ร่วมถึงความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง
2. ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คู่ภาคีจะดำเนินความร่วมมือทวิภาคีทางวิชาการบนพื้นฐานของการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกัน รวมถึงโครงการฝึกอบรมในประเทศที่สาม
3. คู่ภาคีจะกระชับความร่วมมือที่มีอยู่ในขอบข่าย สุขภาพอนามัยการเกษตรกรรม วัฒนธรรมและศาสนา และการท่องเที่ยว
4. ด้วยความตกลงด้านบริการทางอากาศของรัฐบาลราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลราชอาณาจักรภูฏาน ที่ได้ลงนาม ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2536 คู่ภาคีจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านนี้ต่อไป
5. คู่ภาคีจะให้การสนับสนุนกันและกัน ในเวทีพหุภาคีและเวทีระหว่างประเทศ
6. เอกอัครราชทูตแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบในการติดตามการปฏิบัติการของกิจกรรมด้านต่างๆ ที่เกิดจากความตกลง และที่เกิดจากความร่วมมือทวิภาคีที่เป็นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของประเทศที่สอง
7. ความตกลงนี้ จะมีผลบังคับใช้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิก โดยจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าเป็นเวลาหกเดือนดังรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. คู่ภาคีจะร่วมกันพัฒนาและขยายความร่วมมือทางการค้า ส่งเสริมการลงทุนในสาขาต่างๆ ที่ได้ร่วมกันกำหนด ร่วมถึงความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง
2. ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คู่ภาคีจะดำเนินความร่วมมือทวิภาคีทางวิชาการบนพื้นฐานของการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกัน รวมถึงโครงการฝึกอบรมในประเทศที่สาม
3. คู่ภาคีจะกระชับความร่วมมือที่มีอยู่ในขอบข่าย สุขภาพอนามัยการเกษตรกรรม วัฒนธรรมและศาสนา และการท่องเที่ยว
4. ด้วยความตกลงด้านบริการทางอากาศของรัฐบาลราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลราชอาณาจักรภูฏาน ที่ได้ลงนาม ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2536 คู่ภาคีจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านนี้ต่อไป
5. คู่ภาคีจะให้การสนับสนุนกันและกัน ในเวทีพหุภาคีและเวทีระหว่างประเทศ
6. เอกอัครราชทูตแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบในการติดตามการปฏิบัติการของกิจกรรมด้านต่างๆ ที่เกิดจากความตกลง และที่เกิดจากความร่วมมือทวิภาคีที่เป็นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของประเทศที่สอง
7. ความตกลงนี้ จะมีผลบังคับใช้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิก โดยจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าเป็นเวลาหกเดือนดังรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 กรกฎาคม 2547--จบ--
-กภ-