คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานการดำเนินงานเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟูผู้ประสบภัยสรุปได้ ดังนี้
1. ระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า
1.1 การระดมจัดหาสิ่งของอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้ติดต่อโรงงานและผู้ประกอบการขอรับบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อจัดซื้อ สิ่งจำเป็น อาหาร น้ำดื่ม เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ยาและเวชภัณฑ์ โดยได้รับความร่วมมือกองทัพอากาศ องค์การ
ขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ และการรถไฟแห่งประเทศไทยในการขนส่งสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้กับศูนย์กลางความช่วยเหลือในพื้นที่เพื่อกระจาย แจกจ่ายให้กับผู้ประสบความเดือดร้อนต่อไป
1.2 การระดมสิ่งของสำหรับผู้เสียชีวิต
ก) จัดหาสิ่งของและอุปกรณ์เพื่อจัดการกับผู้เสียชีวิตโดยได้จัดส่งให้กับศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้ของแต่ละจังหวัด ดังรายการต่อไปนี้
1. น้ำยาฆ่าเชื้อโรค 12 ตัน
2. น้ำแข็งแห้ง 53 ตัน
3. กล่องโฟมและแผ่นโฟม 750 กล่อง/แผ่น
4. ผ้าดิบและพลาสติกห่อศพ 70,000 หลา
5. น้ำยาฟอร์มาลีน 10 แกลลอน
6. ถุงมือยาง 200 กิโลกรัม
ข) การต่อโลงศพ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 200 คน ดำเนินการต่อโลงศพ ณ จังหวัดกระบี่และพังงา โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2547 เป็นต้นมา และจะยังคงให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าจะเพียงพอกับความต้องการ
ในการนี้เจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ทำการทรัพยากรธรณีจังหวัดตะกั่วป่า (เดิม) จังหวัดพังงา ได้ทำการต่อโลงศพ จำนวน 150 โลง โดยมีวิทยาลัยเทคนิคพังงาและเรือนจำตะกั่วป่าได้ร่วมทำการต่อโลงศพอีกแห่งละ 50 โลง รวมเป็น 250 โลง
ค) การค้นหาผู้ประสบภัยและการปรับปรุงพื้นที่ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายสำนักงาน อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุและจังหวัดใกล้เคียง ระดมส่งเครื่องมืออุปกรณ์ในการกู้ภัยและค้นหาผู้ประสบภัย รวมทั้งปรับพื้นที่ ประเภทเครื่องจักรหนัก รถขุดเจาะ รถขุดตัก เป็นต้น โดยได้ดำเนินการโดยสรุป ดังนี้
1) ใช้เครื่องจักรกลปรับเกรดถนน เพื่อเปิดทางให้กับหน่วยกู้ภัย บริเวณบางสัก ประมาณ 4 กิโลเมตร
2) ใช้เครื่องจักรขนย้ายเศษวัสดุ ซากต้นไม้ บริเวณบ้านบางเนียง รวม 360 เที่ยว เพื่อไปฝังกลบ คิดเป็นปริมาณ 2,250 ลูกบาศก์เมตร
3) ใช้เครื่องจักรปรับพื้นที่ที่เป็นหลุมบ่อ บริเวณบ้านบางเนียง รวมพื้นที่ประมาณ 6 ไร่
4) ใช้เครื่องจักรปรับพื้นที่ในบริเวณหน่วยบริการทางช่างตะกั่วป่า สำหรับใช้เป็นที่พักชั่วคราวของผู้ประสบภัย รวม 35 ไร่ ผู้พักอาศัยประมาณ 500 ครัวเรือน รวม 3,300 คน
5) จัดรถบรรทุกขนส่งเครื่องอุปโภค บริโภคให้กับศูนย์ช่วยเหลือต่าง ๆ รวม 40 เที่ยว
1.3 ที่พักอาศัยชั่วคราวและการปรับปรุงพื้นที่
ก) กระทรวงอุตสาหกรรมได้สนับสนุนสถานที่อาคารที่ทำการทรัพยากรธรณีจังหวัดตะกั่วป่า(เดิม) เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของเจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 130 นาย และได้จัดให้บริเวณพื้นที่ว่างเปล่าเป็นที่ตั้งเต้นท์และที่ ก่อสร้างบ้านพักชั่วคราว ให้กับผู้รอดชีวิตที่ไม่มีที่อยู่อาศัยจากบ้านน้ำเค็มจำนวนหนึ่งด้วย
ข) ปรับปรุงสถานที่สำหรับให้ผู้ประสบภัยปูนอนชั่วคราว โดยประกอบแผ่นไม้อัดยกพื้น
ค) กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดหาเต้นท์ผ้าใบขนาดใหญ่ (ขนาด 4 x 5 เมตร) สามารถอยู่อาศัยได้เต้นท์ละ 14 คน รวม 5 เต้นท์ และได้จัดหาตู้คอนเทนเนอร์พร้อมเครื่องปรับอากาศเพื่อเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว จำนวน 4 ตู้
2. ระยะฟื้นฟู
2.1 จัดหาวัสดุก่อสร้างเพื่อสร้างบ้านพักอาศัย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานผู้ประกอบการผลิตวัสดุก่อสร้างและเครื่องสุขภัณฑ์ เพื่อขอรับบริจาคหรือจัดจำหน่ายในราคาถูกเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะ (ราคาต้นทุน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
2.2 การช่วยเหลือผู้ประกอบอุตสาหกรรม
ก) กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้จัดตั้งศูนย์ประสานและบริการฟื้นฟู SMEs เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ ที่โรงแรมบ้านสุโขทัย หาดป่าตอง ตำบลกระทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องการขอความช่วยเหลือ การให้คำปรึกษาแนะนำ และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป จัดรถตู้เคลื่อนที่ (Mobile) ของ สสว. จำนวน 2 คัน และรถตู้เคลื่อนที่ (Mobile) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) จำนวน 1 คัน ประสานบริการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ประสบความเสียหายใน 6 จังหวัดด้วย
ข) สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยต่อไป ซึ่งในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ประสบภัย มีผู้ประกอบการรายย่อยกู้เงิน 280 ราย รวมเป็นเงิน 20,145,000 บาท
2.3 เงินบริจาค
ก) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเงินบริจาคจากผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนทั่วไปที่มีจิตศรัทธา โดยเงินที่รับบริจาคได้นำเข้าบัญชีธนาคารเอเชีย จำกัด (มหาชน) ในชื่อ ”กรมโรงงานอุตสาห-กรรม เพื่ออุทกภัย” 1,218,138.50 บาท
ข) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้บริจาคเงินและรับบริจาคอีกทางหนึ่งรวม 1,000,000 บาท ซึ่งได้ส่งมอบให้กับ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยตรงแล้ว
ค) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับบริจาคเงินอีกทางหนึ่ง โดยผ่านบัญชี กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 9,161,901 บาท ซึ่งได้ส่งมอบให้กับ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว (ณ 18 มกราคม 2548)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--
1. ระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า
1.1 การระดมจัดหาสิ่งของอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้ติดต่อโรงงานและผู้ประกอบการขอรับบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อจัดซื้อ สิ่งจำเป็น อาหาร น้ำดื่ม เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ยาและเวชภัณฑ์ โดยได้รับความร่วมมือกองทัพอากาศ องค์การ
ขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ และการรถไฟแห่งประเทศไทยในการขนส่งสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้กับศูนย์กลางความช่วยเหลือในพื้นที่เพื่อกระจาย แจกจ่ายให้กับผู้ประสบความเดือดร้อนต่อไป
1.2 การระดมสิ่งของสำหรับผู้เสียชีวิต
ก) จัดหาสิ่งของและอุปกรณ์เพื่อจัดการกับผู้เสียชีวิตโดยได้จัดส่งให้กับศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้ของแต่ละจังหวัด ดังรายการต่อไปนี้
1. น้ำยาฆ่าเชื้อโรค 12 ตัน
2. น้ำแข็งแห้ง 53 ตัน
3. กล่องโฟมและแผ่นโฟม 750 กล่อง/แผ่น
4. ผ้าดิบและพลาสติกห่อศพ 70,000 หลา
5. น้ำยาฟอร์มาลีน 10 แกลลอน
6. ถุงมือยาง 200 กิโลกรัม
ข) การต่อโลงศพ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 200 คน ดำเนินการต่อโลงศพ ณ จังหวัดกระบี่และพังงา โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2547 เป็นต้นมา และจะยังคงให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าจะเพียงพอกับความต้องการ
ในการนี้เจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ทำการทรัพยากรธรณีจังหวัดตะกั่วป่า (เดิม) จังหวัดพังงา ได้ทำการต่อโลงศพ จำนวน 150 โลง โดยมีวิทยาลัยเทคนิคพังงาและเรือนจำตะกั่วป่าได้ร่วมทำการต่อโลงศพอีกแห่งละ 50 โลง รวมเป็น 250 โลง
ค) การค้นหาผู้ประสบภัยและการปรับปรุงพื้นที่ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายสำนักงาน อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุและจังหวัดใกล้เคียง ระดมส่งเครื่องมืออุปกรณ์ในการกู้ภัยและค้นหาผู้ประสบภัย รวมทั้งปรับพื้นที่ ประเภทเครื่องจักรหนัก รถขุดเจาะ รถขุดตัก เป็นต้น โดยได้ดำเนินการโดยสรุป ดังนี้
1) ใช้เครื่องจักรกลปรับเกรดถนน เพื่อเปิดทางให้กับหน่วยกู้ภัย บริเวณบางสัก ประมาณ 4 กิโลเมตร
2) ใช้เครื่องจักรขนย้ายเศษวัสดุ ซากต้นไม้ บริเวณบ้านบางเนียง รวม 360 เที่ยว เพื่อไปฝังกลบ คิดเป็นปริมาณ 2,250 ลูกบาศก์เมตร
3) ใช้เครื่องจักรปรับพื้นที่ที่เป็นหลุมบ่อ บริเวณบ้านบางเนียง รวมพื้นที่ประมาณ 6 ไร่
4) ใช้เครื่องจักรปรับพื้นที่ในบริเวณหน่วยบริการทางช่างตะกั่วป่า สำหรับใช้เป็นที่พักชั่วคราวของผู้ประสบภัย รวม 35 ไร่ ผู้พักอาศัยประมาณ 500 ครัวเรือน รวม 3,300 คน
5) จัดรถบรรทุกขนส่งเครื่องอุปโภค บริโภคให้กับศูนย์ช่วยเหลือต่าง ๆ รวม 40 เที่ยว
1.3 ที่พักอาศัยชั่วคราวและการปรับปรุงพื้นที่
ก) กระทรวงอุตสาหกรรมได้สนับสนุนสถานที่อาคารที่ทำการทรัพยากรธรณีจังหวัดตะกั่วป่า(เดิม) เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของเจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 130 นาย และได้จัดให้บริเวณพื้นที่ว่างเปล่าเป็นที่ตั้งเต้นท์และที่ ก่อสร้างบ้านพักชั่วคราว ให้กับผู้รอดชีวิตที่ไม่มีที่อยู่อาศัยจากบ้านน้ำเค็มจำนวนหนึ่งด้วย
ข) ปรับปรุงสถานที่สำหรับให้ผู้ประสบภัยปูนอนชั่วคราว โดยประกอบแผ่นไม้อัดยกพื้น
ค) กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดหาเต้นท์ผ้าใบขนาดใหญ่ (ขนาด 4 x 5 เมตร) สามารถอยู่อาศัยได้เต้นท์ละ 14 คน รวม 5 เต้นท์ และได้จัดหาตู้คอนเทนเนอร์พร้อมเครื่องปรับอากาศเพื่อเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว จำนวน 4 ตู้
2. ระยะฟื้นฟู
2.1 จัดหาวัสดุก่อสร้างเพื่อสร้างบ้านพักอาศัย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานผู้ประกอบการผลิตวัสดุก่อสร้างและเครื่องสุขภัณฑ์ เพื่อขอรับบริจาคหรือจัดจำหน่ายในราคาถูกเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะ (ราคาต้นทุน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
2.2 การช่วยเหลือผู้ประกอบอุตสาหกรรม
ก) กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้จัดตั้งศูนย์ประสานและบริการฟื้นฟู SMEs เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ ที่โรงแรมบ้านสุโขทัย หาดป่าตอง ตำบลกระทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องการขอความช่วยเหลือ การให้คำปรึกษาแนะนำ และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป จัดรถตู้เคลื่อนที่ (Mobile) ของ สสว. จำนวน 2 คัน และรถตู้เคลื่อนที่ (Mobile) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) จำนวน 1 คัน ประสานบริการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ประสบความเสียหายใน 6 จังหวัดด้วย
ข) สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยต่อไป ซึ่งในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ประสบภัย มีผู้ประกอบการรายย่อยกู้เงิน 280 ราย รวมเป็นเงิน 20,145,000 บาท
2.3 เงินบริจาค
ก) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเงินบริจาคจากผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนทั่วไปที่มีจิตศรัทธา โดยเงินที่รับบริจาคได้นำเข้าบัญชีธนาคารเอเชีย จำกัด (มหาชน) ในชื่อ ”กรมโรงงานอุตสาห-กรรม เพื่ออุทกภัย” 1,218,138.50 บาท
ข) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้บริจาคเงินและรับบริจาคอีกทางหนึ่งรวม 1,000,000 บาท ซึ่งได้ส่งมอบให้กับ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยตรงแล้ว
ค) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับบริจาคเงินอีกทางหนึ่ง โดยผ่านบัญชี กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 9,161,901 บาท ซึ่งได้ส่งมอบให้กับ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว (ณ 18 มกราคม 2548)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--