คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้เงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำไปให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 เพิ่มเติมจำนวน 14,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดการกู้เงินดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของ ธปท. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ส่วนการขออนุมัติในหลักการให้ ธอส. สามารถกู้เงินกับ ธปท. ในส่วนของวงเงินส่วนกลางที่ ธปท. ได้จัดสรรให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ยื่นขอจัดสรรหรือทบทวนวงเงินภายในเวลาที่ ธปท. กำหนด (จำนวน 41,740 ล้านบาท) นั้น ให้ ธอส. เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินที่ชัดเจนแล้ว
กค. รายงานว่า
1. ธปท. ได้ออกประกาศ ธปท. ที่ สกง. 12/2555 และ สกง. 44/2555 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 วัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 (ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานที่ประกอบอาชีพ หรือสถานประกอบธุรกิจหรือการค้าของตนอยู่ในเขตพื้นที่อุทกภัย และผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในเขตพื้นที่อุทกภัย) ที่สถาบันการเงินได้ตรวจสอบแล้วและรับรองว่าเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจริง โดยให้ ธปท. และสถาบันการเงิน (ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินและธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น) ร่วมกันดำเนินการ
1.2 กรอบวงเงิน สัดส่วน และระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ
1.2.1 วงเงินตามโครงการ รวม 300,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ ธปท. ให้กู้ยืมเงิน Soft loan จำนวนไม่เกิน 210,000 ล้านบาท และเป็นเงินของสถาบันการเงิน จำนวนไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 70:30)
1.2.2 วงเงินให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไม่เกิน 30 ล้านบาท และบุคคลธรรมดาไม่เกิน 3 ล้านบาท
1.2.3 ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแต่ละรายจะได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ ธปท. รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินจะต้องยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อ ธปท. ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 และจะต้องออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ ธปท. มีกำหนดชำระไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2561
1.3 อัตราดอกเบี้ย
1.3.1 ธปท. คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี จากสถาบันการเงิน
1.3.2 สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ย ไม่เกินร้อยละ 3.00 ต่อปี จากผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
2. ตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 29 พฤษภาคม 2555) ธอส. ได้ดำเนินการกู้เงิน Soft loan จาก ธปท. เพื่อนำไปให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 วงเงิน 6,000 ล้านบาท และได้จัดสรรเงินทุนของ ธอส. สมทบ จำนวน 3,000 ล้านบาท (ตามสัดส่วนวงเงินโครงการเท่ากับ 70:30) ในการจัดสรรสินเชื่อ จำนวนรวม 9,000 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนดให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 ไปจนเต็มวงเงินดังกล่าวแล้ว ซึ่งปัจจุบันยังคงมีผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยอีกเป็นจำนวนมากที่ยังคงยื่นความประสงค์ขอกู้เงิน Soft loan กับ ธอส. ในการนี้ ธอส. จึงขอให้ กค. พิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติกู้เงิน Soft loan จาก ธปท. เพื่อนำไปให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 เพิ่มเติมจำนวน 14,000 ล้านบาท โดย ธอส. ได้มีหนังสือถึง ธปท. เพื่อขอรับจัดสรรเงินที่ ธปท. ให้กู้ยืมเงิน Soft loan เพิ่มเติมจำนวน 14,000 ล้านบาท กับ ธปท. ต่อมา ธปท. ได้พิจารณาจัดสรรวงเงินที่ ธอส. สามารถกู้ได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 14,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน Soft loan ที่ ธปท. ได้จัดสรรให้แก่ ธอส. รวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 สิงหาคม 2555--จบ--