คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
1. กำหนดให้จัดตั้งองค์การขึ้น เรียกว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย” เรียกโดยย่อว่า “กกท.” เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการกีฬา เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเกี่ยวกับการกีฬา จัด ช่วยเหลือ แนะนำ และร่วมมือในการจัดและดำเนินกิจกรรมกีฬา สอดส่องและกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมกีฬา และประกอบกิจการอื่น ๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา (ร่างมาตรา 6 ถึงร่างมาตรา 8)
2. กำหนดให้ กกท. ได้รับเงินจากงบประมาณแผ่นดินเพื่อเป็นทุนหรือเพื่อดำเนินงาน และอาจมีรายได้จากทรัพย์สินของ กกท. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล รายได้จากการจัดการแข่งขันกีฬา และรายได้อื่น รวมทั้งกำหนดให้ทรัพย์สินของ กกท. ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี (ร่างมาตรา 10 ร่างมาตรา 11 และร่างมาตรา 13)
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกินเจ็ดคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นกรรมการ โดยให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ กกท. รวมถึงการออกข้อบังคับและระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ กกท. (ร่างมาตรา 14 ถึงร่างมาตรา 19)
4. กำหนดให้คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี โดยผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจการกีฬาหรือในสัญญากับ กกท. หรือในกิจการที่กระทำให้แก่ กกท. ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 20 และร่างมาตรา 21)
5. กำหนดให้มีคณะกรรมการกีฬาจังหวัดในแต่ละจังหวัดนอกจากกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักงาน กกท. จังหวัด ทำหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการและกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการกีฬาจังหวัด มีอำนาจหน้าที่เสนอนโยบาย แผนงาน และโครงการส่งเสริมกีฬาภายในจังหวัดต่อคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยให้ความร่วมมือช่วยเหลือ และสนับสนุน กกท. สมาคมกีฬา และหน่วยงานกีฬาที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันกีฬาและการดำเนินกิจกรรมกีฬาของจังหวัด และดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ กกท. รวมทั้งปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยมอบหมาย (ร่างมาตรา 29 ถึงร่างมาตรา 31)
6. กำหนดให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติขึ้นใน กกท. เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง ช่วยเหลือ และจัดสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา โดยให้ กกท. เป็นผู้เก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนและดำเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุน (ร่างมาตรา 36)
7. กำหนดให้สมาคมกีฬาต้องจดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา โดยมีการจัดการแข่งขันกีฬาหรือส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน และอาจมีการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ทั้งนี้ เมื่อได้จดทะเบียนแล้ว ให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล (ร่างมาตรา 49 และร่างมาตรา 50)
8. กำหนดให้แบ่งประเภทของสมาคมกีฬาออกเป็น สามประเภท คือ สมาคมกีฬาทั่วไป สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” โดยกำหนดลักษณะของสมาคมกีฬาในแต่ละประเภท และกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอนุญาตให้เป็นสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด การอนุญาตให้เป็นสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” การส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา หรือจัดหรือร่วมในการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาของสมาคมกีฬาในแต่ละประเภท รวมถึงการกำหนดข้อห้ามในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ร่างมาตรา 62 ถึงร่างมาตรา 69)
9. กำหนดให้พนักงานและลูกจ้างของ กกท. มีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด และกำหนดให้ กกท. จัดให้มีกองทุนสงเคราะห์หรือการสงเคราะห์อื่น เพื่อสวัสดิการของพนักงาน ลูกจ้าง และครอบครัว ในกรณีที่พนักงานหรือลูกจ้างนั้นพ้นจากตำแหน่ง ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ตาย หรือกรณีอื่นอันควรแก่การสงเคราะห์ ทั้งนี้ ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด (ร่างมาตรา 96 และร่างมาตรา 97)
10. กำหนดให้ กกท. ต้องทำงบประมาณประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยในส่วนของงบลงทุนให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบ ส่วนงบทำการให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ และให้รายได้ของ กกท. ที่ได้รับจากการดำเนินงานในปีหนึ่ง ๆ ตกเป็นของ กกท. (ร่างมาตรา 98 ถึงร่างมาตรา 106)
11. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ กกท. และมีอำนาจสั่งให้ กกท. ชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น ทำรายงาน หรือยับยั้งการกระทำของ กกท. ที่ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลหรือมติของคณะรัฐมนตรี ตลอดจนมีอำนาจสั่งให้ กกท. ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลหรือมติของคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังได้กำหนดกรณีที่ กกท. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการได้ (ร่างมาตรา 107 ถึงร่างมาตรา 109)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 สิงหาคม 2555--จบ--