คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องกำลังการผลิตโรงงานน้ำตาลตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาแล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ขยายเวลาการคงสิทธิการผลิตของโรงงานทั้งสามไม่เกิน 18,000 ตันอ้อย/วัน เท่ากันทุกโรงงาน โดยให้ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรม
2. ให้บริษัททั้งสามสามารถย้ายสถานที่ตั้งโรงงานไปยังเขตพื้นที่ที่มีปริมาณอ้อยเพียงพอกับการผลิตในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น โดยต้องเสนอขอความเห็นชอบจากระทรวงอุตสาหกรรมก่อนดำเนินการ
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการทำสัญญา ซื้อขายกิจการโรงงานทั้งสามโรงงาน ซึ่งได้แก่ บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลอุตรดิตถ์ จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลแม่วัง จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2541 โดยความในสัญญากำหนดให้ผู้ซื้อกิจการมีสิทธิขยายกำลังการผลิตแต่ละโรงงาน เพิ่มขึ้นได้เป็นวันละไม่เกิน 18,000 ตันอ้อย/วัน และมีสิทธิย้ายสถานที่ตั้งโรงงานตามความเหมาะสมกับแหล่งวัตถุดิบอ้อยได้ภายในกำหนดเวลา 5 ฤดูกาลหีบ นับแต่วันลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการ ซึ่งสิทธิดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อฤดูกาลการผลิตปี 2545/2546 เดือนเมษายน 2546 และบริษัททั้งสามได้ยื่นคำขอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2546 เรียบร้อยแล้ว
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากขณะนี้สิทธิของบริษัททั้งสามในการขอขยายกำลังการผลิตและย้ายสถานที่ตั้งโรงงานน้ำตาลตามสัญญาปี พ.ศ. 2541 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2539 และ 29 เมษายน 2540 เห็นว่าโรงงานดังกล่าวเดิมเป็นโรงงานของรัฐ การดำเนินงานอยู่ในสภาพขาดทุนและมีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก การแปรรูปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงได้กำหนดเป็นมาตรการจูงใจไว้เพื่อให้เอกชนสนใจเข้าประมูลด้วยการกำหนดให้สิทธิผู้ซื้อหรือผู้ประมูลมีสิทธิขยายกำลังการผลิตได้ 18,000 ต้นอ้อย/วัน และมีสิทธิย้ายสถานที่ตั้งโรงงานได้ การให้สิทธิดังกล่าวจึงเป็นมาตรการจูงใจตามเจตนารมณ์ของการแปรรูปเพื่อให้เอกชนสามารถดำเนินการต่อไปได้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงให้บริษัททั้งสามยื่นคำขอเพื่อขยายกำลังการผลิตและหรือขอย้ายสถานที่ตั้งโรงงานตามสิทธิที่ได้รับตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งบริษัททั้งสามได้ยื่นคำขอต่อกระทรวงอุตสาหกรรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. เห็นชอบให้ขยายเวลาการคงสิทธิการผลิตของโรงงานทั้งสามไม่เกิน 18,000 ตันอ้อย/วัน เท่ากันทุกโรงงาน โดยให้ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรม
2. ให้บริษัททั้งสามสามารถย้ายสถานที่ตั้งโรงงานไปยังเขตพื้นที่ที่มีปริมาณอ้อยเพียงพอกับการผลิตในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น โดยต้องเสนอขอความเห็นชอบจากระทรวงอุตสาหกรรมก่อนดำเนินการ
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการทำสัญญา ซื้อขายกิจการโรงงานทั้งสามโรงงาน ซึ่งได้แก่ บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลอุตรดิตถ์ จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลแม่วัง จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2541 โดยความในสัญญากำหนดให้ผู้ซื้อกิจการมีสิทธิขยายกำลังการผลิตแต่ละโรงงาน เพิ่มขึ้นได้เป็นวันละไม่เกิน 18,000 ตันอ้อย/วัน และมีสิทธิย้ายสถานที่ตั้งโรงงานตามความเหมาะสมกับแหล่งวัตถุดิบอ้อยได้ภายในกำหนดเวลา 5 ฤดูกาลหีบ นับแต่วันลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการ ซึ่งสิทธิดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อฤดูกาลการผลิตปี 2545/2546 เดือนเมษายน 2546 และบริษัททั้งสามได้ยื่นคำขอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2546 เรียบร้อยแล้ว
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากขณะนี้สิทธิของบริษัททั้งสามในการขอขยายกำลังการผลิตและย้ายสถานที่ตั้งโรงงานน้ำตาลตามสัญญาปี พ.ศ. 2541 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2539 และ 29 เมษายน 2540 เห็นว่าโรงงานดังกล่าวเดิมเป็นโรงงานของรัฐ การดำเนินงานอยู่ในสภาพขาดทุนและมีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก การแปรรูปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงได้กำหนดเป็นมาตรการจูงใจไว้เพื่อให้เอกชนสนใจเข้าประมูลด้วยการกำหนดให้สิทธิผู้ซื้อหรือผู้ประมูลมีสิทธิขยายกำลังการผลิตได้ 18,000 ต้นอ้อย/วัน และมีสิทธิย้ายสถานที่ตั้งโรงงานได้ การให้สิทธิดังกล่าวจึงเป็นมาตรการจูงใจตามเจตนารมณ์ของการแปรรูปเพื่อให้เอกชนสามารถดำเนินการต่อไปได้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงให้บริษัททั้งสามยื่นคำขอเพื่อขยายกำลังการผลิตและหรือขอย้ายสถานที่ตั้งโรงงานตามสิทธิที่ได้รับตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งบริษัททั้งสามได้ยื่นคำขอต่อกระทรวงอุตสาหกรรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-