ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. ....

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 29, 2012 08:57 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

ข้อเท็จจริง

ศธ. เสนอว่า ตามที่ได้มีการดำเนินการบริหารวิทยาลัยชุมชนตามกฎกระทรวงว่าด้วย การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญารูปแบบวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. 2546 ปรากฏว่ากฎกระทรวงดังกล่าวไม่เอื้อต่อการบริหารจัดการวิทยาลัยชุมชนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 303 (2) บัญญัติให้ปรับปรุงกฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ ซึ่งรวมถึงวิทยาลัยชุมชนด้วย จึงจำเป็นต้องตราร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... ขึ้น

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. กำหนดให้สถาบันเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ร่างมาตรา 5)

2. กำหนดให้สถาบันเป็นสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาโดยวิทยาลัยชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อสร้างความเข้มแข็งของท้องถิ่นและชุมชน ตอบสนองและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและชุมชน และการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 8 และร่างมาตรา 9)

3. กำหนดให้สถาบันแบ่งส่วนราชการออกเป็น สำนักงานสถาบัน วิทยาลัย ส่วนราชการอื่น ๆ และให้การจัดตั้ง การรวม การโอนหรือการยุบเลิกวิทยาลัย หรือส่วนราชการอื่นจัดทำเป็นกฎกระทรวง เว้นแต่การแบ่งส่วนราชการภายในให้ทำเป็นประกาศสถาบัน (ร่างมาตรา 10 และมาตรา 11)

4. กำหนดให้สถาบันมีรายได้นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน ได้แก่ เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม เบี้ยปรับ ค่าปรับ และค่าบริการต่าง ๆ ของสถาบัน เงินอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือเงินอุดหนุนอื่นที่สถาบันได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของสถาบัน เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้ เป็นต้น และให้รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ (ร่างมาตรา 12)

5. กำหนดให้มีสภาสถาบัน ประกอบด้วย นายกสภาสถาบัน กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการซึ่งเลือกจากผู้แทนภาคเอกชน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งนายกสภาสถาบันและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและภาคเอกชนเป็นไปตามที่กำหนด และให้สภาสถาบันมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 15 ถึงร่างมาตรา 18)

6. กำหนดให้มีสภาวิชาการ ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด และให้จำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุม เป็นไปตามข้อบังคับของสภาสถาบัน (ร่างมาตรา 20 และร่างมาตรา 21)

7. กำหนดให้มีผู้อำนวยการสถาบันเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของสถาบัน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน และให้ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 22 ถึงร่างมาตรา 25 และร่างมาตรา 27)

8. กำหนดให้วิทยาลัยซึ่งเป็นส่วนราชการในสถาบันมีหน้าที่จัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา และฝึกอบรมด้านวิชาการหรือด้านวิชาชีพ และให้วิทยาลัยบริหารและจัดการศึกษาบนพื้นฐานของการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ตลอดจนการระดมทรัพยากรและการสนับสนุน (ร่างมาตรา 31 และร่างมาตรา 32)

9. กำหนดห้ามมิให้วิทยาลัยปฏิเสธการรับบุคคลเข้าศึกษาในวิทยาลัย หรือยุติหรือชะลอการศึกษาของนักศึกษาด้วยเหตุเพียงว่าผู้นั้นขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาว่านักศึกษาผู้ใดเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้เป็นไปตามระเบียบที่สภาสถาบันกำหนด (ร่างมาตรา 33)

10. กำหนดให้มีสภาวิทยาลัยเพื่อทำหน้าที่คณะกรรมการสถานศึกษาประกอบด้วย ผู้แทนองค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันอุดมศึกษา ศิษย์เก่า และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา เป็นไปตามข้อบังคับของสภาสถาบัน และวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุม เป็นไปตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 35 ถึงร่างมาตรา 37)

11. กำหนดให้มีผู้อำนวยการวิทยาลัยซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาเป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้อำนวยการ มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 39 ถึงร่างมาตรา 42)

12. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการวิทยาลัย ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งสภาวิทยาลัยแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกวิทยาลัย โดยมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด จำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการดำเนินการและการประชุม เป็นไปตามข้อบังคับของสภาวิทยาลัย (ร่างมาตรา 43)

13. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณฯ การโอนบรรดาข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ การดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการต่าง ๆ การได้รับอนุปริญญาและประกาศนียบัตร ตลอดจนกฎกระทรวง กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ร่างมาตรา 50 ถึงร่างมาตรา 56)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 สิงหาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ