ขอความเห็นชอบร่างเอกสารว่าด้วยหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์ของการเจรจาความตกลง RCEP

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 29, 2012 09:36 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารขอความเห็นชอบร่างเอกสารว่าด้วยหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์ของการเจรจาความตกลง RCEP ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอและหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายรับรองเอกสารดังกล่าว ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศภาคีความตกลงการค้าของอาเซียน

สาระสำคัญร่างเอกสารว่าด้วยหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์ของการเจรจาความตกลง RCEP (Guiding Principles and Objectives for Negotiating the Regional Comprehensive Economic Partnership) เป็นการกำหนดหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์ของการเจรจาความตกลง RCEP เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นความตกลงที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันรอบด้านโดยครอบคลุมการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางเทคนิค และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า โดยการเจรจาจะตระหนักถึงบทบาทของอาเซียนในการเป็นศูนย์กลาง (ASEAN Centrality) ของภูมิภาคและสนับสุนนการรวมกลุ่มเศรษฐกิจในภูมิภาค

เอกสารดังกล่าวได้กำหนดหลักการทั่วไปในการเจรจาหัวข้อสำคัญอย่างกว้าง ๆ ดังนี้

(1) สอดคล้องกับกฎกติกาภายใต้ความตกลงขององค์การการค้าโลก

(2) สร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมจากความตกลงการค้าเสรีอาเซียนกับประเทศคู่ภาคีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยตระหนักถึงระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันระหว่างประเทศสมาชิก และให้ความยืดหยุ่นที่เหมาะสมแก่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนา

(3) ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกและความโปร่งใสทางการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน รวมทั้งส่งเสริมการเข้าห่วงโซ่อุปทานภายในภูมิภาคและตลาดโลก

(4) ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและขีดความสามารถเพื่อลดช่องว่างความแตกต่างของการพัฒนา

(5) ส่งเสริมความร่วมมือด้านประเด็นอื่นที่มีบทบาทต่อการค้ายุคใหม่ อาทิ ทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขัน รวมทั้งเปิดโอกาสให้พิจารณาประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า อาทิ สิ่งแวดล้อม การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และแรงงาน โดยคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงทางธุรกิจ

(6) เปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ที่สนใจเข้าร่วมในภายหลังประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศภาคีความตกลงการค้าเสรีของอาเซียนมีเจตจำนงร่วมกันว่าร่างเอกสารดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการกำหนดหลักการทั่วไปและแนวทางสำหรับการเจรจาความเป็นภูมิภาคหุ้นส่วนเศรษฐกิจโดยไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือตัดสินผลลัพธ์ของการเจรจาล่วงหน้า ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 นอกจากนี้ รัฐสภาได้เห็นชอบกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของไทยภายใต้การเจรจาอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่มไว้แล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 สิงหาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ