คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการผู้มีสิทธิได้รถยนต์ประจำตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่ายกฎหมายฯ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานกรรมการ ไปดำเนินการด้วย
กระทรวงการคลังเสนอรายงานว่า
1. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 และวันที่ 10 พฤษภาคม 2547 มีมติมอบให้ กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) กำหนดอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่าย โดยให้นำหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายของกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ที่ได้คำนวณเปรียบเทียบระหว่างกรณีซื้อกับกรณีจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่าย โดยใช้วิธีการคำนวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value-NPV) ทั้งนี้ ให้แก้ไขเพิ่มเติมรายการค่าใช้จ่ายที่นำมาคำนวณค่าใช้จ่ายกรณีซื้อ ดังนี้
1.1 แก้ไขมูลค่าซาก ณ ปีที่ 6 จากเดิมอัตราร้อยละ 26 เป็นอัตราร้อยละ 21
1.2 ค่าจ้างพนักงานขับรถ ให้คำนวณค่าจ้างโดยรวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่รัฐต้องจ่ายให้แก่พนักงานขับรถนอกเหนือจากค่าจ้าง เช่น เงินสมทบของลูกจ้างประจำเงินบำเหน็จลูกจ้างเงินช่วยเหลือบุตร เงินค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
1.3 ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่เกิดขึ้น ก่อน-หลัง การซื้อ/ซ่อม/จำหน่าย ตัวรถ
2. การจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ รัฐจะมีภาระค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกับกรณีซื้อ โดยรัฐจ่ายเงินน้อยกว่ากรณีซื้อเป็นจำนวน 674.23 ล้านบาท ซึ่งอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ของผู้บริหารระดับสูงที่คำนวณได้จะเป็นดังนี้
- ระดับรองอธิบดีหรือเทียบเท่า 25,400 บาท/คน/เดือน
- ระดับอธิบดี รองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า 31,800 บาท/คน/เดือน
- ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า 41,000 บาท/คน/เดือน
3. ข้าราชการผู้อยู่ในข่ายที่จะเลือกรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ต้องเป็นข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองอธิบดีหรือเทียบเท่า ระดับอธิบดี รองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า และระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งมีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
4. กรณีที่เลือกรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ จะต้องไม่มีรถประจำตำแหน่งโดยการซื้อหรือเช่า ห้ามเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิที่ได้เลือกไว้ เว้นแต่จะได้รับการเลื่อนระดับตำแหน่งหรือชั้นยศที่สูงขึ้น แล้วแต่กรณี ซึ่งทำให้สิทธิในการได้รถประจำตำแหน่งเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อพ้นจากการดำรงตำแหน่งในส่วนราชการนั้น และห้ามนำรถยนต์ส่วนกลางหรือรถประจำตำแหน่งของทางการไปใช้ หากนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้จะหมดสิทธิการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ และให้ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
กรณีผู้มีสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งที่มีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งโดยการซื้อหรือเช่าอยู่แล้ว ให้ใช้สิทธินั้นต่อไปจนกว่าจะได้รับการเลื่อนระดับ ตำแหน่ง หรือชั้นยศที่สูงขึ้นหรือพ้นจากการดำรงตำแหน่งในส่วนราชการนั้น แล้วแต่กรณี
5. การเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งให้เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด สำหรับวิธีการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลม
6. กรณีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า และตำแหน่งรัฐมนตรีหรือเทียบเท่านั้น เนื่องจากเป็นตำแหน่งระดับสูงจึงเห็นสมควรให้ส่วนราชการจัดหารถประจำตำแหน่งโดยการจัดซื้อหรือการเช่าแทนการกำหนดค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ เพื่อให้มีความเหมาะสมแก่ฐานะตำแหน่งของบุคคลดังกล่าว
7. การพิจารณา วินิจฉัย ตอบข้อหาหรือเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งเห็นสมควรให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาจึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-
กระทรวงการคลังเสนอรายงานว่า
1. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 และวันที่ 10 พฤษภาคม 2547 มีมติมอบให้ กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) กำหนดอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่าย โดยให้นำหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายของกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ที่ได้คำนวณเปรียบเทียบระหว่างกรณีซื้อกับกรณีจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่าย โดยใช้วิธีการคำนวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value-NPV) ทั้งนี้ ให้แก้ไขเพิ่มเติมรายการค่าใช้จ่ายที่นำมาคำนวณค่าใช้จ่ายกรณีซื้อ ดังนี้
1.1 แก้ไขมูลค่าซาก ณ ปีที่ 6 จากเดิมอัตราร้อยละ 26 เป็นอัตราร้อยละ 21
1.2 ค่าจ้างพนักงานขับรถ ให้คำนวณค่าจ้างโดยรวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่รัฐต้องจ่ายให้แก่พนักงานขับรถนอกเหนือจากค่าจ้าง เช่น เงินสมทบของลูกจ้างประจำเงินบำเหน็จลูกจ้างเงินช่วยเหลือบุตร เงินค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
1.3 ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่เกิดขึ้น ก่อน-หลัง การซื้อ/ซ่อม/จำหน่าย ตัวรถ
2. การจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ รัฐจะมีภาระค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกับกรณีซื้อ โดยรัฐจ่ายเงินน้อยกว่ากรณีซื้อเป็นจำนวน 674.23 ล้านบาท ซึ่งอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ของผู้บริหารระดับสูงที่คำนวณได้จะเป็นดังนี้
- ระดับรองอธิบดีหรือเทียบเท่า 25,400 บาท/คน/เดือน
- ระดับอธิบดี รองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า 31,800 บาท/คน/เดือน
- ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า 41,000 บาท/คน/เดือน
3. ข้าราชการผู้อยู่ในข่ายที่จะเลือกรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ต้องเป็นข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองอธิบดีหรือเทียบเท่า ระดับอธิบดี รองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า และระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งมีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
4. กรณีที่เลือกรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ จะต้องไม่มีรถประจำตำแหน่งโดยการซื้อหรือเช่า ห้ามเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิที่ได้เลือกไว้ เว้นแต่จะได้รับการเลื่อนระดับตำแหน่งหรือชั้นยศที่สูงขึ้น แล้วแต่กรณี ซึ่งทำให้สิทธิในการได้รถประจำตำแหน่งเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อพ้นจากการดำรงตำแหน่งในส่วนราชการนั้น และห้ามนำรถยนต์ส่วนกลางหรือรถประจำตำแหน่งของทางการไปใช้ หากนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้จะหมดสิทธิการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ และให้ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
กรณีผู้มีสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งที่มีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งโดยการซื้อหรือเช่าอยู่แล้ว ให้ใช้สิทธินั้นต่อไปจนกว่าจะได้รับการเลื่อนระดับ ตำแหน่ง หรือชั้นยศที่สูงขึ้นหรือพ้นจากการดำรงตำแหน่งในส่วนราชการนั้น แล้วแต่กรณี
5. การเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งให้เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด สำหรับวิธีการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลม
6. กรณีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า และตำแหน่งรัฐมนตรีหรือเทียบเท่านั้น เนื่องจากเป็นตำแหน่งระดับสูงจึงเห็นสมควรให้ส่วนราชการจัดหารถประจำตำแหน่งโดยการจัดซื้อหรือการเช่าแทนการกำหนดค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ เพื่อให้มีความเหมาะสมแก่ฐานะตำแหน่งของบุคคลดังกล่าว
7. การพิจารณา วินิจฉัย ตอบข้อหาหรือเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งเห็นสมควรให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาจึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-