คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการในเรื่องการให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อการปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ค.ศ.1999 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
อนึ่ง อนุสัญญาฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. กำหนดให้ผู้จัดหาหรือรวบรวมทุนเพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามที่ได้นิยามไว้ในสนธิสัญญาใด สนธิสัญญาหนึ่งซึ่งปรากฏในภาคผนวกเป็นความผิดกรณีหนึ่งหรือกำหนดให้ผู้จัดหาหรือรวบรวมทุนเพื่อใช้ในการกระทำที่ก่อให้เกิดการตายหรือบาดเจ็บทางกายอย่างร้ายแรงแก่ผู้อื่น หรือโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะข่มขู่ประชาชน หรือบังคับรัฐบาลหรือองค์การระหว่างประเทศให้กระทำหรือละเว้นจากการกระทำใดเป็นความผิดอีกกรณีหนึ่ง
2. กำหนดให้รัฐภาคีจะต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการตรวจสอบ ตรวจหา อายัดและยึดทรัพย์สินที่ใช้หรือมีเจตนาใช้ในการกระทำความผิด
3. ความผิดตามอนุสัญญาฯ เป็นความผิดที่สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ และไม่อาจอ้างเป็นความผิดทางการเมืองหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือเป็นความผิดเกี่ยวกับการเงินและการคลังที่รัฐภาคีจะปฏิเสธการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือให้ความร่วมมือทางอาญา
4. บุคคลผู้กระทำความผิดซึ่งกำลังถูกกักขังหรือรับโทษสามารถได้รับการโอนตัวได้
5. หากมีหลายรัฐอ้างเขตอำนาจเหนือความผิดที่เกิดขึ้น ให้รัฐประสานความร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือทางอาญา
ทั้งนี้ อนุสัญญาฯ จะไม่บังคับใช้ในกรณีความผิดที่กระทำในดินแดนของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงรัฐเดียว หรือผู้กระทำความผิดเป็นคนชาติและอยู่รัฐนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-
อนึ่ง อนุสัญญาฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. กำหนดให้ผู้จัดหาหรือรวบรวมทุนเพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามที่ได้นิยามไว้ในสนธิสัญญาใด สนธิสัญญาหนึ่งซึ่งปรากฏในภาคผนวกเป็นความผิดกรณีหนึ่งหรือกำหนดให้ผู้จัดหาหรือรวบรวมทุนเพื่อใช้ในการกระทำที่ก่อให้เกิดการตายหรือบาดเจ็บทางกายอย่างร้ายแรงแก่ผู้อื่น หรือโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะข่มขู่ประชาชน หรือบังคับรัฐบาลหรือองค์การระหว่างประเทศให้กระทำหรือละเว้นจากการกระทำใดเป็นความผิดอีกกรณีหนึ่ง
2. กำหนดให้รัฐภาคีจะต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการตรวจสอบ ตรวจหา อายัดและยึดทรัพย์สินที่ใช้หรือมีเจตนาใช้ในการกระทำความผิด
3. ความผิดตามอนุสัญญาฯ เป็นความผิดที่สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ และไม่อาจอ้างเป็นความผิดทางการเมืองหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือเป็นความผิดเกี่ยวกับการเงินและการคลังที่รัฐภาคีจะปฏิเสธการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือให้ความร่วมมือทางอาญา
4. บุคคลผู้กระทำความผิดซึ่งกำลังถูกกักขังหรือรับโทษสามารถได้รับการโอนตัวได้
5. หากมีหลายรัฐอ้างเขตอำนาจเหนือความผิดที่เกิดขึ้น ให้รัฐประสานความร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือทางอาญา
ทั้งนี้ อนุสัญญาฯ จะไม่บังคับใช้ในกรณีความผิดที่กระทำในดินแดนของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงรัฐเดียว หรือผู้กระทำความผิดเป็นคนชาติและอยู่รัฐนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 สิงหาคม 2547--จบ--
-กภ-