เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรและข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ
ด้านมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างไทยกับสาธารณรัฐชิลี
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรและข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างไทยกับสาธารณรัฐชิลี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอดังนี้
ข้อเท็จจริง
กษ. รายงานว่า ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลี และความตกลงความร่วมมือด้านวิชาการของมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลีตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 25 สิงหาคม 2552 , วันที่ 4 พฤษภาคม 2553) แล้ว เมื่อวันพุธที่ 15 สิงหาคม 2555 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนาย Luis Mayol Bouchon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสาธารณรัฐชิลี
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการของมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลี
1.1 ภาคีคู่สัญญาจะร่วมดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของทั้ง 2 ประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคศัตรูพืชและสัตว์พาหะ ตลอดจนสนับสนุนอำนวยความสะดวกระหว่างกัน
1.2 กิจกรรมที่จะดำเนินการจะครอบคลุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางกฎหมาย กฎระเบียบ มาตรการ และข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช การแลกเปลี่ยนผู้แทนเพื่อร่วมประชุม สัมมนา ฝึกอบรมตลอดจนการแจ้งเตือนภาคีคู่สัญญากรณีการเกิดการแพร่ระบาดของโรค และมาตรการในการควบคุมโรค ศัตรูพืชและสัตว์พาหะ รวมทั้งความร่วมมืออื่น ๆ
1.3 มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วม และแต่งตั้งหน่วยประสานงานโดยหน่วยงานรับผิดชอบฝ่ายไทยคือ กษ. ฝ่ายชิลี คือ กระทรวงเกษตร
2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลี
2.1 วัตถุประสงค์ ร่วมมือในสาขาอื่น ๆ ซึ่งอาจมีการพิจารณาในอนาคต
2.2 ขอบเขตความร่วมมือ ได้แก่ การเกษตรซึ่งรวมทั้งสัตว์และพืช การพัฒนาสหกรณ์การเกษตรและสถาบันภาคเกษตรกร การจัดการและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพด้านการเกษตร เป็นต้น
2.3 กำหนดให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร หรือเรียกว่า “JAWG” เพื่อการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ โดยคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรจะรับผิดชอบในการประเมินผลโครงการ หรือเสนอโครงการเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงในอนาคตรวมทั้งให้คำแนะนำ
2.4 รูปแบบของความร่วมมือ ความร่วมมือจะอยู่ในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนนักวิชาการและนักวิจัย การศึกษาและการจัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ การวิจัยร่วมด้านการเกษตร รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และทางวิชาการ เป็นต้น
2.5 การระงับข้อพิพาท ข้อพิพาทระหว่างคู่ภาคีที่เกิดจากการตีความหรือการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ให้ระงับโดยฉันท์มิตรด้วยการหารือหรือเจรจา
2.6 การมีผลบังคับใช้ และการสิ้นสุด : บันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีผลบังคับในวันที่มีการลงนาม และจะมีผลใช้บังคับนับจากวันที่มีการลงนามเป็นระยะเวลา 5 ปี และหลังจากนั้นจะขยายอายุโดยอัตโนมัติอีกครั้งละ 5 ปี แต่อาจสิ้นสุดโดยภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า 3 เดือน ก่อนบันทึกความเข้าใจจะสิ้นสุด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 ตุลาคม 2555--จบ--