แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงอุตสาหกรรม
ร่างพระราชบัญญัติ
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และเพื่อให้การตรวจพิจารณาเป็นไปด้วยความรอบคอบ หากกระทรวงใดรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติด้งกล่าวประการใด ให้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภายในวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2547 ทั้งนี้ หากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วเสร็จ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 กันยายน 2547 อีกครั้งหนึ่ง
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 เพื่อเพิ่มจำนวนกรรมการ โดยให้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคมเป็นกรรมการ และเพิ่มจำนวนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นไม่เกิน 7 คน กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 10 ปี โดยไม่จำกัดจำนวนตามเงินลงทุนและปรับให้มีการยกเว้นภาษี ลดหย่อนอากรต่าง ๆ รวมทั้งยกเลิกการอนุญาตให้หักเงินได้พึงประเมินในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 5 ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริม
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนที่ใช้อยู่ในขณะนี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการส่งเสริมการลงทุนและลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันเพิ่มศักยภาพในการชักจูงให้เกิดการลงทุนในประเทศของตนโดยการเสนอสิทธิและประโยชน์ทั้งในรูปแบบของสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีอากร เช่น ในรูปของเงินช่วยเหลือ เงินอุดหนุน การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งนักลงทุนสามารถศึกษาเปรียบเทียบให้ตรงกับความต้องการก่อนตัดสินใจได้ ประกอบกับหลายประเทศมีนโยบายเชิงรุกเข้าถึงตัวของนักลงทุน เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนเป็นไปอย่างคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้นในการให้สิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรตามความเหมาะสมของภาวะเศรษฐกิจและสอดคล้องกับสภาวะด้านการคลังของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 เพื่อเพิ่มจำนวนกรรมการ โดยให้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคมเป็นกรรมการ และเพิ่มจำนวนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นไม่เกิน 7 คน กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 10 ปี โดยไม่จำกัดจำนวนตามเงินลงทุนและปรับให้มีการยกเว้นภาษี ลดหย่อนอากรต่าง ๆ รวมทั้งยกเลิกการอนุญาตให้หักเงินได้พึงประเมินในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 5 ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริม
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนที่ใช้อยู่ในขณะนี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการส่งเสริมการลงทุนและลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันเพิ่มศักยภาพในการชักจูงให้เกิดการลงทุนในประเทศของตนโดยการเสนอสิทธิและประโยชน์ทั้งในรูปแบบของสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีอากร เช่น ในรูปของเงินช่วยเหลือ เงินอุดหนุน การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งนักลงทุนสามารถศึกษาเปรียบเทียบให้ตรงกับความต้องการก่อนตัดสินใจได้ ประกอบกับหลายประเทศมีนโยบายเชิงรุกเข้าถึงตัวของนักลงทุน เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนเป็นไปอย่างคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้นในการให้สิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรตามความเหมาะสมของภาวะเศรษฐกิจและสอดคล้องกับสภาวะด้านการคลังของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-