คณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการนำเงินเหลือจ่าย/เงินที่ลดได้มาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอแล้วมีมติดังนี้
1. ให้กันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ทุกงบรายจ่าย ยกเว้นงบบุคลากรและงบกลางที่เป็นเงินเหลือจ่ายของส่วนราชการ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ส่วนราชการนำเงินเหลือจ่ายดังกล่าวไปใช้เป็นสิ่งจูงใจตามแนวทางที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง และให้หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ เร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณที่ขอกันไว้ดังกล่าวให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 ได้เห็นชอบในหลักการและรายละเอียดของแนวทางและวิธีการในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการเสริมสร้างการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ
2. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กค.) และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกันดำเนินการกำหนดวงเงินและพิจารณาวงเงินเหลือจ่ายไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันให้แก่ส่วนราชการต่อไป
สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานว่า
(1) กระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินการของส่วนราชการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ร. กำหนดไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันเพื่อนำมาจัดสรรเป็นสิ่ง จูงใจแล้ว (รายละเอียดปรากฏในหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.7/ว 91 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2547) ซึ่งส่วนราชการต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอกันเงินงบประมาณเหลือจ่ายดังกล่าว ไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันโดยแจ้งรายละเอียดว่าเป็นเงินเหลือจ่ายจากงบดำเนินการ งบลงทุน งบเงินอุดหนุน หรืองบรายจ่ายอื่น (ยกเว้นงบบุคลากร และงบกลาง) เป็นจำนวนเท่าใด โดยกระทรวงการคลัง หรือกรมบัญชีกลางจะต้องได้รับเรื่องขอตกลงภายในวันทำการสุดท้ายของปีงบประมาณและให้เบิกจ่ายได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากระทรวงการคลัง
(2) อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าควรกำหนดแนวทางให้ส่วนราชการจะต้องใช้งบประมาณเหลือจ่ายตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ดังนี้
1. พัฒนาบุคลากรเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในองค์กร โดยไม่ให้นำไปใช้จ่ายเพื่อการศึกษาดูงานในต่างประเทศ
2. พัฒนาองค์กรโดยการจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ และเทคโนโลยี ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนและสนับสนุนการดำเนินงานของส่วนราชการอย่างมีประสิทธิภาพ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-
1. ให้กันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ทุกงบรายจ่าย ยกเว้นงบบุคลากรและงบกลางที่เป็นเงินเหลือจ่ายของส่วนราชการ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ส่วนราชการนำเงินเหลือจ่ายดังกล่าวไปใช้เป็นสิ่งจูงใจตามแนวทางที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง และให้หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ เร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณที่ขอกันไว้ดังกล่าวให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 ได้เห็นชอบในหลักการและรายละเอียดของแนวทางและวิธีการในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการเสริมสร้างการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ
2. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กค.) และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกันดำเนินการกำหนดวงเงินและพิจารณาวงเงินเหลือจ่ายไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันให้แก่ส่วนราชการต่อไป
สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานว่า
(1) กระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินการของส่วนราชการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ร. กำหนดไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันเพื่อนำมาจัดสรรเป็นสิ่ง จูงใจแล้ว (รายละเอียดปรากฏในหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.7/ว 91 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2547) ซึ่งส่วนราชการต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอกันเงินงบประมาณเหลือจ่ายดังกล่าว ไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันโดยแจ้งรายละเอียดว่าเป็นเงินเหลือจ่ายจากงบดำเนินการ งบลงทุน งบเงินอุดหนุน หรืองบรายจ่ายอื่น (ยกเว้นงบบุคลากร และงบกลาง) เป็นจำนวนเท่าใด โดยกระทรวงการคลัง หรือกรมบัญชีกลางจะต้องได้รับเรื่องขอตกลงภายในวันทำการสุดท้ายของปีงบประมาณและให้เบิกจ่ายได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากระทรวงการคลัง
(2) อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าควรกำหนดแนวทางให้ส่วนราชการจะต้องใช้งบประมาณเหลือจ่ายตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ดังนี้
1. พัฒนาบุคลากรเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในองค์กร โดยไม่ให้นำไปใช้จ่ายเพื่อการศึกษาดูงานในต่างประเทศ
2. พัฒนาองค์กรโดยการจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ และเทคโนโลยี ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนและสนับสนุนการดำเนินงานของส่วนราชการอย่างมีประสิทธิภาพ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-