คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินระยะ-ยาวเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการชำระหนี้เงินกู้และใช้จ่ายลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการของ รฟท. ปีงบประมาณ 2547 จำนวน 3,204 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันแต่เนื่องจากใกล้ระยะเวลาสิ้นปีงบประมาณ 2547 รฟท. จึงขอทำการกู้เงินดังกล่าวในระหว่างปีงบประมาณ 2548 ได้ ในกรณีที่มีความจำเป็น กระทรวงคมนาคมรายงานว่า
1. รฟท.โดยคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติอนุมัติให้ รฟท. ปรับปรุงงบประมาณทำการ ประจำปี 2547 ประกอบด้วย ประมาณการรายได้เป็นเงิน 8,763 ล้านบาท ประมาณการรายจ่ายเป็นเงิน 13,866 ล้านบาท คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นเงิน 5,103 ล้านบาท (รวมรายจ่ายบำเหน็จบำนาญ) และขาดเงินสดหมุนเวียน 3,204 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานจริงในปี 2547 ระยะ 9 เดือน (ตุลาคม 2546-มิถุนายน 2547) การที่ รฟท. สามารถปรับลดการขาดทุนจากประมาณการเดิมที่คณะรัฐมนตรีเคยรับทราบแล้วจากขาดทุน 5,893 ล้านบาท มาเป็นขาดทุน 5,103 ล้านบาท และขาดเงินสดจาก 3,897 ล้านบาท เป็น 3,204 ล้านบาทนี้ เป็นผลอันเนื่องมาจาก รฟท. ได้มีการควบคุมและปรับลดค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมโดยเฉพาะรายจ่ายค่าวัสดุดำเนินงาน รวมถึงการปรับปรุงรายได้จากการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
2. รฟท. จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อทดแทนภาระการขาดดุลเงินสดมาโดยตลอด เนื่องจาก รฟท. มีภาระรายจ่าย ลงทุนที่ต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ การจ่ายบำเหน็จบำนาญ รวมทั้งภาระการชำระหนี้เงินกู้เพื่อใช้จ่ายลงทุนและใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งจากประมาณการฐานะเงินสดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2547 รฟท. คาดว่าจะขาดทุนเงินสดประมาณ 3,204 ล้านบาท ดังนั้น รฟท. จึงมีความจำเป็นจะต้องกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในการดำเนินงานชำระหนี้เงินกู้ และใช้จ่ายลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ จำนวน 3,204 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-
1. รฟท.โดยคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติอนุมัติให้ รฟท. ปรับปรุงงบประมาณทำการ ประจำปี 2547 ประกอบด้วย ประมาณการรายได้เป็นเงิน 8,763 ล้านบาท ประมาณการรายจ่ายเป็นเงิน 13,866 ล้านบาท คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นเงิน 5,103 ล้านบาท (รวมรายจ่ายบำเหน็จบำนาญ) และขาดเงินสดหมุนเวียน 3,204 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานจริงในปี 2547 ระยะ 9 เดือน (ตุลาคม 2546-มิถุนายน 2547) การที่ รฟท. สามารถปรับลดการขาดทุนจากประมาณการเดิมที่คณะรัฐมนตรีเคยรับทราบแล้วจากขาดทุน 5,893 ล้านบาท มาเป็นขาดทุน 5,103 ล้านบาท และขาดเงินสดจาก 3,897 ล้านบาท เป็น 3,204 ล้านบาทนี้ เป็นผลอันเนื่องมาจาก รฟท. ได้มีการควบคุมและปรับลดค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมโดยเฉพาะรายจ่ายค่าวัสดุดำเนินงาน รวมถึงการปรับปรุงรายได้จากการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
2. รฟท. จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อทดแทนภาระการขาดดุลเงินสดมาโดยตลอด เนื่องจาก รฟท. มีภาระรายจ่าย ลงทุนที่ต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ การจ่ายบำเหน็จบำนาญ รวมทั้งภาระการชำระหนี้เงินกู้เพื่อใช้จ่ายลงทุนและใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งจากประมาณการฐานะเงินสดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2547 รฟท. คาดว่าจะขาดทุนเงินสดประมาณ 3,204 ล้านบาท ดังนั้น รฟท. จึงมีความจำเป็นจะต้องกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในการดำเนินงานชำระหนี้เงินกู้ และใช้จ่ายลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ จำนวน 3,204 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-