การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้เงินกู้ระยะสั้น

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้เงินกู้ระยะสั้นกับธนาคารที่มีเงื่อนไขเหมาะสมที่สุดในวงเงิน 3,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีภาระที่ต้องจ่ายค่าซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากค่าซื้อไฟฟ้าประจำเดือนที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาท และในปี 2548 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีภาระที่ต้องซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีภาระที่จะต้องจ่ายเงินค่าซื้อไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยภายใน 30 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้ ซึ่งถ้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่สามารถชำระเงินได้ทันภายในระยะเวลาที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องเสียค่าปรับในอัตรา MOR+2% ต่อปี (ปัจจุบัน MOR ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่ากับ 5.75 %)
คณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงมีมติให้ความเห็นชอบในคราวประชุม ครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2547 ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกู้เงินระยะสั้นกับธนาคารที่มีเงื่อนไขเหมาะสมหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในวงเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ที่ดีของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตามนโยบายของรัฐบาล แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินและงบประมาณแผ่นดินของประเทศ และไม่กระทบต่อเพดานเงินกู้ต่างประเทศ เนื่องจากเป็นการขอใช้วงเงินกู้ภายในประเทศ ส่วนผลกระทบทางสังคมและทางด้านอื่น ๆ ไม่มี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กันยายน 2547--จบ--
-กภ-