คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) รายงานการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จังหวัดนครสวรรค์ สรุปได้ว่า
1. จังหวัดนครสวรรค์มีพื้นที่เกิดภัยแล้ง รวม 13 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ จำนวน 102 ตำบล 675 หมู่บ้าน ราษฎร ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 83,164 ครัวเรือน (221,052 คน) เนื่องจากปริมาณน้ำของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ (มีเพียงร้อยละ 29 และ 48 ตามลำดับ) มีปริมาณต่ำกว่าปีที่ผ่านมาจึงมีน้ำระบายไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์น้อย ประกอบกับในปี พ.ศ. 2548 มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 579.7 มม. ด้วย จึงทำให้เกิดความแห้งแล้ง
2. พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง 667,583.77 ไร่ (ซึ่งเป็นความเสียหายจากการทำนาปี ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2547 สะสมต่อเนื่องถึงช่วงการทำนาปรังเดือนมีนาคม 2548) ทั้งนี้ จังหวัดนครสวรรค์ได้ให้การช่วยเหลือแล้ว 140,962 ไร่ เป็นเงิน 35,894,359 บาท และจังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเงิน 135,761,198.75 บาท สำหรับให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 526,621.77 ไร่ ที่เหลือด้วย
3. สำหรับการแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำสำหรับไร่นาของโครงการชลประทาน จำนวน 28 เครื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำมีน้อย และมีการปฏิบัติการทำฝนหลวงด้วยเครื่องบิน จำนวน 4 ลำ วันละ 10 เที่ยวทุกวัน ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดนครสวรรค์สนับสนุนรถยนต์ และเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้วย มีฝนหลวงได้ตกกระจายทั้งจังหวัดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2548 มีหมู่บ้านแห้งแล้งลดลงเพียง 77 หมู่บ้าน พื้นที่เสียหายลดลงประมาณ 4,000 ไร่ และในวันที่เดินทางไปกำกับติดตามการปฏิบัติราชการ (วันที่ 28 มีนาคม 2548) มีฝนตกในระหว่างการเดินทางไปยังอำเภอลาดยาวเป็นเวลานาน
4. การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค มีจำนวน 675 หมู่บ้าน จำแนกเป็นระดับรุนแรง จำนวน 150 หมู่บ้าน ระดับปานกลาง จำนวน 382 หมู่บ้าน และระดับน้อย จำนวน 143 หมู่บ้าน จังหวัดได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยรถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 40 คัน บรรทุกน้ำแจกจ่ายแล้ว รวม 26,059,135 ลิตร (คิดเป็นเงิน 1,152,048 บาท) ทั้งนี้ คาดว่าต้องแจกจ่ายน้ำอีก 150,000,000 ลิตร (คิดเป็นเงิน 5,123,059 บาท)
5. แนวทางการแก้ไขระยะยาว
1) โครงการพัฒนาปรับปรุงแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัด ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ ซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังจ่ายเงินชดเชยค่าต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่อ่างเก็บน้ำไม่แล้วเสร็จ ซึ่งมีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 5 การปรับปรุงคลองแม่วงก์ระยะทาง 52 กิโลเมตร งบประมาณ 44,000,000 บาท การปรับปรุงคลองคต คลองเคียน คลองวังวัด การปรับปรุงคลอง 17 สาย (ทหารได้ดำเนินการขุดลอกบางส่วนแล้ว ) การก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางกระแห เสือคะเม็ง และคลองเกรียงไกร การพัฒนาแหล่งน้ำด้วยระบบท่อจากคลองอนุศาสนนันท์-ตาคลี-ตากฟ้า และการขุดลอกบึงหล่มพื้นที่ 600 ไร่ งบประมาณ 93,000,000 บาท
2) การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ประจำหมู่บ้าน ตำบล และกำหนดให้ประชาชนจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อบริหารจัดการด้วยตนเอง ในปี พ.ศ. 2548 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ใช้จ่ายงบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแล้ว เพียง 8,294,058 บาท จากที่ตั้งไว้ 45,773,551 บาท
3) การบริหารจัดการพื้นที่ (Zoning) ด้านการเกษตร โดยแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชที่เหมาะสมกับกลุ่มดิน และแหล่งน้ำ
4) การชะลอและเก็บกักน้ำตามลำน้ำสำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ โดยการก่อสร้างฝายชั่วคราวเพื่อกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำปิง จำนวน 4 แห่ง ซึ่งจะช่วยพื้นที่การเกษตรได้ 420,000 ไร่
ในการกำกับติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดนครสวรรค์ครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) ได้ดำเนินการสั่งการเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ดังนี้
1. ให้จังหวัดประสานงานกองทัพบก และกองทัพอากาศ เพื่อสนธิกำลังในการให้ความช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้งอย่างเร่งด่วนและเต็มที่
2. ในการขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงให้เร่งดำเนินการในพื้นที่ประสบภัยแล้งโดยทันทีเมื่อสภาพภูมิอากาศอยู่ในภาวะที่เหมาะสมที่จะดำเนินการได้
3. สำหรับเงินงบประมาณ จำนวน 135,761,198.75 บาท เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ราษฎรผู้ประสบภัยที่จังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนนั้น จะติดตามเร่งรัดให้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี
4. ให้จังหวัดเร่งดำเนินการพิสูจน์ต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ และจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์โดยเร็ว ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเป็นโครงการที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ และสามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในระยะยาวต่อไป
5. ในส่วนของการปรับปรุง (ขุดลอก) คลองแม่วงก์ ระยะทาง 52 กิโลเมตร งบประมาณ 44,000,000 บาท และการขุดลอกบึงหล่ม พื้นที่ 600 ไร่ งบประมาณ 93,000,000 บาท เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้ในระยะปานกลาง ให้สามารถใช้คลองเป็นระบบส่งน้ำแก่เกษตรกร และใช้บึงหล่มเป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตประปาของอำเภอลาดยาว จะได้เร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--
1. จังหวัดนครสวรรค์มีพื้นที่เกิดภัยแล้ง รวม 13 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ จำนวน 102 ตำบล 675 หมู่บ้าน ราษฎร ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 83,164 ครัวเรือน (221,052 คน) เนื่องจากปริมาณน้ำของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ (มีเพียงร้อยละ 29 และ 48 ตามลำดับ) มีปริมาณต่ำกว่าปีที่ผ่านมาจึงมีน้ำระบายไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์น้อย ประกอบกับในปี พ.ศ. 2548 มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 579.7 มม. ด้วย จึงทำให้เกิดความแห้งแล้ง
2. พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง 667,583.77 ไร่ (ซึ่งเป็นความเสียหายจากการทำนาปี ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2547 สะสมต่อเนื่องถึงช่วงการทำนาปรังเดือนมีนาคม 2548) ทั้งนี้ จังหวัดนครสวรรค์ได้ให้การช่วยเหลือแล้ว 140,962 ไร่ เป็นเงิน 35,894,359 บาท และจังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเงิน 135,761,198.75 บาท สำหรับให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 526,621.77 ไร่ ที่เหลือด้วย
3. สำหรับการแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำสำหรับไร่นาของโครงการชลประทาน จำนวน 28 เครื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำมีน้อย และมีการปฏิบัติการทำฝนหลวงด้วยเครื่องบิน จำนวน 4 ลำ วันละ 10 เที่ยวทุกวัน ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดนครสวรรค์สนับสนุนรถยนต์ และเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้วย มีฝนหลวงได้ตกกระจายทั้งจังหวัดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2548 มีหมู่บ้านแห้งแล้งลดลงเพียง 77 หมู่บ้าน พื้นที่เสียหายลดลงประมาณ 4,000 ไร่ และในวันที่เดินทางไปกำกับติดตามการปฏิบัติราชการ (วันที่ 28 มีนาคม 2548) มีฝนตกในระหว่างการเดินทางไปยังอำเภอลาดยาวเป็นเวลานาน
4. การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค มีจำนวน 675 หมู่บ้าน จำแนกเป็นระดับรุนแรง จำนวน 150 หมู่บ้าน ระดับปานกลาง จำนวน 382 หมู่บ้าน และระดับน้อย จำนวน 143 หมู่บ้าน จังหวัดได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยรถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 40 คัน บรรทุกน้ำแจกจ่ายแล้ว รวม 26,059,135 ลิตร (คิดเป็นเงิน 1,152,048 บาท) ทั้งนี้ คาดว่าต้องแจกจ่ายน้ำอีก 150,000,000 ลิตร (คิดเป็นเงิน 5,123,059 บาท)
5. แนวทางการแก้ไขระยะยาว
1) โครงการพัฒนาปรับปรุงแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัด ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ ซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังจ่ายเงินชดเชยค่าต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่อ่างเก็บน้ำไม่แล้วเสร็จ ซึ่งมีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 5 การปรับปรุงคลองแม่วงก์ระยะทาง 52 กิโลเมตร งบประมาณ 44,000,000 บาท การปรับปรุงคลองคต คลองเคียน คลองวังวัด การปรับปรุงคลอง 17 สาย (ทหารได้ดำเนินการขุดลอกบางส่วนแล้ว ) การก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางกระแห เสือคะเม็ง และคลองเกรียงไกร การพัฒนาแหล่งน้ำด้วยระบบท่อจากคลองอนุศาสนนันท์-ตาคลี-ตากฟ้า และการขุดลอกบึงหล่มพื้นที่ 600 ไร่ งบประมาณ 93,000,000 บาท
2) การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ประจำหมู่บ้าน ตำบล และกำหนดให้ประชาชนจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อบริหารจัดการด้วยตนเอง ในปี พ.ศ. 2548 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ใช้จ่ายงบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแล้ว เพียง 8,294,058 บาท จากที่ตั้งไว้ 45,773,551 บาท
3) การบริหารจัดการพื้นที่ (Zoning) ด้านการเกษตร โดยแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชที่เหมาะสมกับกลุ่มดิน และแหล่งน้ำ
4) การชะลอและเก็บกักน้ำตามลำน้ำสำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ โดยการก่อสร้างฝายชั่วคราวเพื่อกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำปิง จำนวน 4 แห่ง ซึ่งจะช่วยพื้นที่การเกษตรได้ 420,000 ไร่
ในการกำกับติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดนครสวรรค์ครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) ได้ดำเนินการสั่งการเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ดังนี้
1. ให้จังหวัดประสานงานกองทัพบก และกองทัพอากาศ เพื่อสนธิกำลังในการให้ความช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้งอย่างเร่งด่วนและเต็มที่
2. ในการขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงให้เร่งดำเนินการในพื้นที่ประสบภัยแล้งโดยทันทีเมื่อสภาพภูมิอากาศอยู่ในภาวะที่เหมาะสมที่จะดำเนินการได้
3. สำหรับเงินงบประมาณ จำนวน 135,761,198.75 บาท เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ราษฎรผู้ประสบภัยที่จังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนนั้น จะติดตามเร่งรัดให้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี
4. ให้จังหวัดเร่งดำเนินการพิสูจน์ต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ และจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์โดยเร็ว ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเป็นโครงการที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ และสามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในระยะยาวต่อไป
5. ในส่วนของการปรับปรุง (ขุดลอก) คลองแม่วงก์ ระยะทาง 52 กิโลเมตร งบประมาณ 44,000,000 บาท และการขุดลอกบึงหล่ม พื้นที่ 600 ไร่ งบประมาณ 93,000,000 บาท เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้ในระยะปานกลาง ให้สามารถใช้คลองเป็นระบบส่งน้ำแก่เกษตรกร และใช้บึงหล่มเป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตประปาของอำเภอลาดยาว จะได้เร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--