ความตกลงการค้าเสรีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลี

1. อนุมัติยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2553 เกี่ยวกับมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2552 เรื่อง ยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ ข้อ 5.5.4 มาตรการปกป้องความเข้มแข็งของนโยบายแอลกอฮอล์จากผลกระทบของข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ

2. เห็นชอบและอนุมัติการลงนามความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐชิลี ก่อนนำเสนอความตกลงฯ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ความเห็นชอบเพื่อผูกพันไทยต่อไป

3. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือ ผู้ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามในความตกลง ฯ ข้างต้น และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในความตกลงฯ นี้และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยให้ผู้ลงนามใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก

4. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่น เป็นผู้ลงนาม

5. เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบความตกลง ฯ ให้มอบหมาย กต. จัดทำหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ ข้างต้นเมื่อประเทศไทยได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้ว

สาระสำคัญของเรื่อง

ความตกลงการค้าเสรีไทย — ชิลี เป็นความตกลงที่มีกรอบกว้าง (Comprehensive Agreement) โดยรวมข้อบทต่างๆ ที่เกี่ยวกับการค้าและการลงทุนในความตกลงฉบับเดียว ได้แก่ (1) การค้าสินค้า (2) พิธีการศุลกากร (3) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (4) มาตรการปกป้องและเยียวยาทางการค้า (5) มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (6) มาตรการอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (7) การค้าบริการ (8) การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ (9) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และ (10) ความโปร่งใส ส่วนข้อบทการลงทุนจะมีการเจรจาภายใน 2 ปี นับจากความตกลงมีผลใช้บังคับ โดยมีสาระสำคัญครอบคลุมในเรื่องการค้าสินค้าและการค้าบริการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 พฤศจิกายน 2555--จบ--